ผู้ใหญ่บ้านส่ายหัว โจรคงอดยากปากแห้งในยุคเศรษฐกิจตกต่ำ แต่ถ้าคนในไม่ชักศึกเข้าบ้านคงไม่กล้าเข้ามาอาละวาดงัดแงะบ้านเรือน 2 หลังรวด ในพื้นที่ ม.11 ต.น้ำผุด ฉกทีวีจอแบนไปได้ 1 เครื่อง
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 20 ม.ค.63 ร.ต.ท.เวชยัณห์ หิรัญสุวรรณ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งจากวิทยุสื่อสาร 191 ว่ามีเหตุงัดแงะเข้าไปลักทรัพย์บริเวณพื้นที่หมู่ 11 ต.น้ำผุด หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย ตร.ชุดสืบสวนรุดไปยังบ้านที่เกิดเหตุ พบ นายโกศล ฮินิกาล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 11 ต.น้ำผุด พาไปชี้จุดที่เกิดเหตุ เป็นบ้าน 2 หลังที่อยู่ห่างกันประมาณ 30 เมตร ซึ่งบ้านทั้ง 2 หลังดังกล่าวไม่มีคนอยู่อาศัยแต่ใช้เป็นที่เก็บข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ โดยหลังแรกเลขที่ 281 หมู่ 11 ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง บ้านหลังดังกล่าวเคยเปิดเป็นร้านขายหมู ต่อมาเจ้าของได้ปิดกิจการจึงได้นำข้าวของเครื่องใช้ เช่น เครื่องบดเนื้อ เครื่องปั่น และข้าวของอื่นๆ เก็บเอาไว้ โดยทำรั้วกรงเหล็กกั้นอย่างมิดชิด ปรากฏว่าคนร้ายได้ใช้คีมตัดกรงเหล็กมุดเข้าปไปค้นหาข้าวของแต่ไม่ได้อะไรไปเนื่องจากของมีน้ำหนักมากยกเคลื่อนย้ายไม่ไหว มีเพียงร่องรอยพยายามยกเคลื่อนที่เท่านั้น จากนั้นเข้าไปงัดแงะประตูบ้านอีกหลัง เลขที่ 99 หมู่ที่ 11 ต.น้ำผุด อยู่ห่างกันประมาณ 30 เมตร ได้ทีวีจอแบนขนาด 32 นิ้ว ไปจำนวน 1 เครื่อง ซึ่งเจ้าของซื้อมาติดตั้งได้ไม่นาน โดยโจรได้ทิ้งรีโมทกับกล่องสัญญาณไว้ให้ดูต่างหน้า
นายโกศล เปิดเผยว่า ตั้งแต่ตนอยู่ที่นี่มาเหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ที่นี่อยู่กันแบบพี่น้องกัน ถึงมีคนนอกเข้ามามั่วสุมที่ผ่านๆ มา ก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ตนมองว่าการใช้ชีวิตกับเศรษฐกิจก็เรื่องหนึ่ง ตนมองว่าเป้าหมายมุ่งมาที่บ้านไม่มีคนอยู่ ส่วนปัญหายาเสพติดในชุมชนก็มีแต่ก็ไม่หนักเกิน แหล่งมั่วสุมก็มี การเป็นอยู่ก็ควบคุมได้ แต่พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ทุกคนก็ต้องช่วยกัน คิดว่าคนนอกน่าจะเข้ามาเกี่ยวพันถ้าเด็กในบ้านไม่ชักชวนคนนอกก็คงไม่รู้ เพราะที่นี่อยู่กันแบบพี่แบบน้องเครือญาติกันทั้งนั้น ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บรวบรวมข้อมูลหลักฐานจากพยานสิ่งแวดล้อมก่อนจะติดตามกลุ่มมั่วสุมในพื้นที่เข้ามาสอบสวนและติดตามจับกุมคนร้ายเพื่อนำมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.