แทบช็อก! สองตายายนั่งกินข้าว ผงะจู่ๆ พญาจงอางตัวใหญ่ ยาวกว่า 5 เมตร โผล่เลื้อยมาขดอยู่ที่เสากลางบ้าน ก่อนประสาน 191 แจ้งไปยังหน่วยกู้ภัยวิเศษ เชื่อเป็นงู “บองหลาทวด”
เวลา 17.20 น.วันที่ 20 ม.ค.63 หน่วยกู้ภัยบรรเทาวังวิเศษ (มูลนิธิกุศลสถานตรัง บ๊วนเต็กเซี่ยงตึ๊ง) ได้รับแจ้งทางวิทยุสื่อสาร 191 ว่าที่บ้านเลขที่ 80 ม.8 บ้านวังใหม่ ต.วังมะปราง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง มีงูจงอางหรือ งูบองหลา ขนาดใหญ่เข้ามาขดตัวอยู่ภายในบ้าน หลังรับแจ้งทีมกู้ภัยฯ นำโดย นายไสว แก้วเจือ หัวหน้าหน่วยกู้ภัยบรรเทาวังวิเศษพร้อมอาสาสมัครกู้ภัยฯ พร้อมอุปกรณ์ครบมือ รุดเดินทางไปตามที่ได้รับแจ้ง
เมื่อไปถึงพบ นายกิจ และนางลาภ จีนประชา อายุ 78 ปี สองตายายเจ้าของบ้านอาศัยอยู่เพียงลำพัง เล่าว่า ขณะกำลังนั่งกินข้าวมื้อเย็นอยู่ที่โต๊ะ จู่ๆ พญาจงอางตัวใหญ่ หรืองูบองหลา ความยาวกว่า 5 เมตร น้ำหนัก 15 กก. หัวสีทองลำตัวเขียวเทา เลื้อยเข้ามาทางใกล้ๆ กับที่ตนเองนั่งกินข้าวกันอยู่ แล้วมาขดอยู่ที่เสากลางบ้าน ทำให้คุณยายเข่าอ่อนแทบช็อก และทำท่าจะเป็นลม
คุณยายลาภ เล่าว่าตั้งแต่เกิดมาอายุจะ 80 ปีแล้วยังไม่เคยเห็นงูตัวใหญ่ขนาดนี้เลย ตนจึงยกมือภาวนา ว่าถ้าเป็นงูทวดจริงหรือเจ้าที่ขอให้ออกไปอยู่ตามที่ตามทางของท่านเถิด คุณยายเล่าอีกว่าบนบานก็แล้ว ให้คุณลุงใช้ไม้ไผ่ยาวๆเขี่ยก็แล้ว งูบองหลามันก็ทำท่าชูคอแผ่แม่เบี้ย ขู่ ตนเองยิ่งกลัวเข้าไปใหญ่ จึงแจ้งไปยัง 191 ให้ช่วยประสานหน่วยกู้ภัยบรรเทาวังวิเศษมาจับใช้เวลา 15 นาที ได้อย่างปลอดภัย
ขณะที่ชาวบ้านหลังทราบข่าวต่างแห่กันมาดู และตามความเชื่อของชาวปักษ์ใต้ว่างูจงอางนั้นเป็นงูทวด หรืองูเจ้าที่ และชาวบ้านที่มามุงดูก็ได้นำแป้งมาทาตามลำตัวและปลดตัวเห็บที่กัดกินตามลำตัวแล้วภาวนาขอพรต่างๆ นาๆ ว่าขอให้ตนนั้นมีโชคลาภ อย่าเจ็บไข้ได้ป่วยและอย่ามาโชว์ตัวให้ลูกหลานได้เห็นอีกต่อไปเลย เพราะตนเองกลัว
ขณะที่ นายไสว เผยว่า ช่วงนี้กู้ภัยได้รับแจ้งว่าเจออสรพิษ และงูหลายชนิดอยู่บ่อยๆ จะออกมายังหมู่บ้านอาจเป็นเพราะช่วงหน้าแล้งติดต่อกันมาหลายวันทำให้งูจงอางขาดน้ำและอาหาร ไม่มีป่าชื้นสำหรับที่อยู่อาศัยจึงออกมาหากินและหนีร้อนลงมาหลบอยู่ตามบ้านเรือนของชาวบ้าน และขอฝากเตือนถ้าเจออสรพิษต่างๆ นั้น ให้แจ้งมายังหน่วยกู้ภัย เราพร้อมออกปฏิบัติหน้าที่อยู่ทุกที่ และไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่เราไม่อยากให้เข้าไปจับเอง เมื่อเจองูจงอาง หรืองูอื่นๆ เพราะเขาไม่รู้ว่างูนั้นมีพิษหรือไม่ ขอให้โทรแจ้งหน่วยกู้ภัยฯ จะปลอดภัยกว่า.