นทท.วางใจได้ ‘โคโรน่า’ ไม่กระทบวิวาห์ใต้สมุทรตรัง

รองผู้ว่าฯตรัง แถลงชัด ย้ำ! นทท.วางใจได้ ‘โคโรน่า’ ไม่กระทบวิวาห์ใต้สมุทรตรัง แน่นอน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวไทย-เทศ
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 28 ม.ค. 2563 ที่ร้านอาหารกวนนิโตพาทิสเซอรี่ ต.นาโยงใต้ อ.เมืองตรัง นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานในพิธีแถลงข่าวงานวิวาห์ใต้สมุทร 2020 พร้อมด้วย นายพิชัย มะนะสุทธิ์ ประธานหอการค้าจังหวัดตรัง นางสาวนันทวัน ศิริโภคพัฒน์ ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานตรัง และนายศุภศักดิ์ ศรีหมาน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดตรัง ร่วมแถลง ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสุข และสนุกสนาน เป็นไปอย่างอบอุ่น ทั้งอาหารว่างแสนอร่อยที่ทางร้านกวนนิโตได้จัดเตรียมไว้ต้อนรับแขกอย่างละลานตา รวมทั้งข้าวเหนียวแกงไก่ ซึ่งเป็นอาหารที่ไว้ให้คู่รักบ่าวสาวได้รับประทาน เป็นอาหารมงคลตามประเพณีและวัฒนธรรมของ จ.ตรัง ที่มักจะใช้ในงานมงคลสมรส นอกจากนี้การตกแต่งภายในงานยังถูกจัดให้เป็นงานแต่งงานเสมือนจริง อีกทั้งซุ้มดอกไม้ รวมไปถึงการเตรียมสังข์ไว้สำหรับรดทรายสังข์เพื่อจำลองพิธีวิวาห์ พร้อมด้วยคู่บ่าวสาวมาสคอตพะยูน อันเป็นสัตว์ที่แสดงถึงสัญลักษณ์ของชาวตรัง นั่นคือ น้องมงคลและมาลัยมาร่วมในวันนี้ด้วย
โดยจังหวัดตรัง สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดตรัง เทศบาลนครตรัง ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และหอการค้าจังหวัดตรัง ได้กำหนดจัดงาน วิวาห์ใต้สมุทร 2020 ครั้งที่ 24 ระหว่างวันที่ 13-14-15 กุมภาพันธ์ 2563 เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในระดับนานาชาติ และเผยแพร่พิธีแต่งงานตามประเพณีไทยให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายไปทั่วโลก พิธีวิวาห์ใต้สมุทรเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงเทศกาลแห่งความรักและได้ดำเนินการต่อเนื่องมาทุกปี โดยในปีนี้เป็นปีที่ 24 มีคู่บ่าวสาวร่วมงานจำนวน 20 คู่ เป็นชาวไทย 15 คู่ และชาวต่างชาติ 5 คู่ คือ มาเลเซีย,ไทย-แคนาดา,ไทย-สวีเดน,ไทย-จีน,และไทย-เยอรมัน
นายพิชัย มะนะสุทธิ์ ประธานหอการค้าจังหวัดตรัง กล่าวว่า สำหรับกำหนดการในวันที่ 13 ก.พ. 2563 จะมีการจัดพิธีต้อนรับ ณ โรงแรมธรรมรินทร์ ธนา จากนั้นจะร่วมเดินขบวนพาเหรดไปยังหอนาฬิกาซึ่งจะมีพิธีรดน้ำสังข์ในบริเวณดังกล่าวด้วย วันที่ 14 ก.พ. 2563 จัดพิธีจดทะเบียนสมรสใต้ทะเลบริเวณหินก้อนเดียว เกาะมุก อ.กันตัง จ.ตรัง ซึ่งเป็นบริเวณที่น้ำทะเลใสจนสามารถมองเห็นจากผิวน้ำสู่บริเวณที่ทำพิธีได้ และยังมีการจดทะเบียนสมรสจริงให้คู่บ่าวสาวบนแพกลางทะเล ส่วนในช่วงเย็นก็จะมีงานเลี้ยงฉลองบริเวณชายหาดปากเมง ซึ่งเปิดโอกาสให้บริษัทนำเที่ยวเข้ามาร่วมงานเลี้ยงเพื่อสัมผัสงานวิวาห์ใต้สมุทรอย่างใกล้ชิด และในวันที่ 15 ก.พ. 2563 คู่วิวาห์จะเดินทางไปร่วมกันปลูกหญ้าทะเล ณ ชายหาดคลองสน จากนั้นเดินทางไปสักการะศาลเจ้าไท้หนานใต้เทียงกง ก่อนเดินทางกลับ ด้วยความมุ่งหวังจะให้คู่บ่าวสาวและนักท่องเที่ยวได้รับประทับใจกลับไป และช่วยเผยแพร่ประเพณีอันงดงามของจังหวัดตรังในโอกาสต่อไป
ขณะที่ นายขจรศักดิ์ กล่าวย้ำว่า เนื่องด้วยสถานการณ์ของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ยังคงระบาดอย่างหนัก และการจัดพิธีวิวาห์ใต้สมุทรก็ร่วมด้วยคู่รักชาวต่างชาติ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีชาวจีนอยู่ด้วย นายขจรศักดิ์ จึงกล่าวย้ำ-สร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวตามข้อซักถามของผู้สื่อข่าวว่า เรื่องของไวรัสโคโรน่า เมื่อเข้าไปดูข้อมูลจะพบว่าขณะนี้ประเทศจีนได้ปิดเมือง ห้ามเข้า-ออก และมีเครื่องวัดไข้ที่สนามบิน ในส่วนของเราเองเรื่องเที่ยวบินที่บินตรงจากจีน คือเชียงใหม่ และดอนเมือง เพราะฉะนั้นก็จะมีสองที่ดังกล่าวเท่านั้นที่ตั้งเครื่องสแกนวัดไข้ ส่วนของตรังเองอย่างที่ทราบกันว่าช่วงนี้ไม่ใช่ช่วงที่จะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามา แต่อย่างไรก็ดีเราได้แจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเฝ้าระวัง แม้สื่อที่ออกมาว่ามีคนไทย 8 คน ที่ติดเชื้อในตอนนี้ กระนั้นก็ยังไม่มีทางโซนของภาคใต้ และที่สำคัญคือ ถึงแม้จะยังไม่มีผู้ป่วย แต่ตรังก็เตรียมพร้อมรับมือตามแบบแผนของกระทรวงสาธารณสุขอยู่แล้ว
รอง ผวจ.ตรัง กล่าวอีกว่า จังหวัดตรังเองก็มีพร้อมทั้งที่พักรองรับนักท่องเที่ยว อาหารที่อร่อย ที่เที่ยวสวยงาม และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คนตรังใจกว้าง สร้างแต่ความดี ซึ่งนี่เองก็เป็นจุดขายของเมืองตรัง ทั้งนี้ทั้งหอการค้า สภาอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว ส่วนราชการ และภาคเอกชน เชื่อว่าหากร่วมมือกัน งานวิวาห์ใต้สมุทรที่เป็นสิ่งสร้างเชื่อเสียงให้กับจังหวัดตรัง และอีกหลายงาน หลายชุมชนที่เราจะปั้นให้เกิดการท่องเที่ยว เชื่อว่าหากร่วมมือกันจะสามารถทำให้เมืองตรังเกิดอีกรอบ นายขจรศักดิ์กล่าว
ด้าน นางสาวนันทวัน ได้ตอบข้อซักถามต่อผู้สื่อข่าวอีกว่า สำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในตรัง ส่วนใหญ่คือ นักท่องเที่ยวชาวไทย มากถึง 85 เปอร์เซ็นต์ สำหรับชาวต่างชาติเองอันดับ 1 คือชาวสวีเดน อันดับ 2 คือเดนมาร์ก อันดับ 3 คือเยอรมัน อันดับ 4 คือฝรั่งเศส และอันดับ 5 คือนักท่องเที่ยวชาวจีน ทั้งนี้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในตรังมากถึง 187,228 คน ด้วยเหตุผลที่ว่าทะเลตรังในช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงที่สวยที่สุด มีทั้งนักท่องเที่ยวที่มากันเอง และมากับกรุ๊ปทัวร์ และรายได้หมุนเวียนที่เข้ามาช่วง เดือนมกราคม ถึงธันวาคม 2562 มีมากกว่า 9,700 ล้านบาท.