ชาวบ้านเมืองตรังผวาหนัก มนุษย์ป้ามหันตภัยออกอาละวาด บุกเข้าถึงบ้านตระเวนลักทรัพย์คนแก่ชรา โดยทำทีตีสนิทเป็นญาติ และขอเข้าห้องน้ำ ก่อนฉกทรัพย์เกลี้ยง โดยมีผู้เสียหายจำนวนมาก โอดตำรวจยังจับไม่ได้ อ้างหลักฐานไม่เพียงพอ
เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ 29 ก.พ.63 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นางฉิ่ง ถมหนวด อายุ 73 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68/1 หมู่ 2 ต.บางรัก อ.เมืองตรัง จ.ตรัง ว่า ได้ถูกสาวใหญ่ ผมสั้น ร่างผม อายุประมาณ 50-55 ปี สูงประมาณ 150 ซม.สวมชุดดูดี สะพายกระเป๋า และถือร่ม เดินเข้ามาภายในบ้าน โดยทำทีว่าเป็นญาติ ก่อนจะทำตีสนิทพูดคุยต่างๆนาๆ เพื่อหวังที่จะประสงค์ต่อทรัพย์ รวมทั้งขอเข้าไปภายในบ้านและเข้าห้องน้ำ แต่เมื่อเจ้าของบ้านเริ่มระแวง เพราะไม่ได้รู้จักและไม่ได้ตามที่ตนเองประสงค์ก็จะเดินออกไปทันที
น.ส.ภัทรวดี อินทรโชติ อายุ 15 ปี ซึ่งเป็นหลานสาวของนางฉิ่ง ถมหนวด เล่าว่า ช่วงเช้าเมื่อวานนี้ที่ผ่านมา (28 ก.พ.) หญิงคนดังกล่าวได้เดินมาจากบนถนนก่อนปรี่เข้ามาภายในบ้าน ซึ่งขณะนั้นมีเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันนั่งอยู่หน้าบ้าน ก่อนที่จะถามว่ามาหาใคร ขณะเดียวกันนางฉิ่ง ซึ่งเป็นยายของตนเดินออกมาพอดี ทางหญิงสาวดังกล่าวจึงบอกว่ามาหาคนนี้ ก่อนจะชี้ไปที่ยายของตน พร้อมกับเดินเข้ามาภายในบ้าน และนั่งคุยกับตาของตน คือ นายบุญช่วย ถมหนวด อายุ 78 ปี ก่อนที่จะบอกว่า “จำหนูได้ไหม หนูเป็นญาติของตา” ตาจึงบอกว่าจำไม่ได้ ก่อนจะถามตาว่ามีพี่น้องที่ไหนบ้าง รวมทั้งถามอยู่กันกี่คน ทำอาชีพอะไร แล้วก็ขอเข้าห้องน้ำ คุณยายจึงพาเดินเข้าไป ซึ่งเวลานั้นทุกคนภายในบ้านเริ่มระแวง เพราะไม่รู้จักก่อนจะออกมา แล้วทำทีเป็นโทรศัพท์เข้า ก่อนจะคุยโทรศัพท์บอกว่า “เนี่ยๆเสร็จแล้ว เดี๋ยวจะออกไป” ก่อนที่จะวางสาย แล้วบอกว่าช่วยไปส่งได้ไหม รถซ่อมอยู่ข้างนอก โดยที่ไม่มีใครไปส่ง ก่อนที่หญิงสาวคนดังกล่าวจะเดินออกไปทันที ซึ่งตนและครอบครัวรู้สึกหวาดผวาอย่างมาก โดยที่กล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงสามารถจับภาพไว้ได้
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 208 ถ.คลองน้ำเจ็ด ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง ซึ่งรับแจ้งว่าเป็นผู้เสียหายอีกราย ทราบชื่อคือ นางนิภา อนุกูลพันธ์ อายุ 82 ปี โดยที่ลูกสาวของคุณยายคือ นางสมนึก อนุกูลพันธ์ อายุ 52 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว เล่าว่า ช่วงเที่ยงวันของเมื่อวานนี้ (28 ก.พ.) หญิงสาวคนดังกล่าวได้เปิดประตูรั้วเข้ามาภายในบ้าน โดยที่มีคุณแม่นั่งอยู่หน้าบ้านเพียงคนเดียว ส่วนตนเองและลูกสาวอยู่ภายในบ้าน โดยที่ไม่ได้เดินออกมาดู แต่สั่งเกตุเห็นและได้ยินว่าหญิงสาวคนดังกล่าวทำทีเข้ามาพูดคุยและทำทีว่าเป็นญาติคุณยาย และขอเข้าห้องน้ำโดยทีคุณยายเดินพาเข้าไป ซึ่งบังเอิญเจอกับตนพอดี โดยที่ถามตนเองว่าทำอะไรอยู่ ตนเองก็ไม่ตอบ เพราะเริ่มระแวง ก่อนที่จะเดินออกไปนั่งกับคุณยายเหมือนเดิม ซึ่งตนสังเกตเห็นว่าหญิงคนดังกล่าว ได้ใช้มือล้วงไปที่หน้าอกของคุณยาย และในกระเป๋าเสื้อ กางเกงแต่ไม่มีอะไร ก่อนที่ตนจะให้ลูกสาวถ่ายคลิปไว้ หญิงสาวคนดังกล่าวจึงบอกว่าขอกลับก่อน “รถซ่อมเสร็จแล้ว ไปเอารถก่อน” โดยที่ไม่รู้มาก่อนเลยว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร ซึ่งตอนนี้ก็รู้สึกหวาดระแวงเป็นอย่างมาก และจะไม่ปล่อยให้คุณยายอยู่บ้านเพียงคนเดียว
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบย้อนหลังพบว่า เมื่อวันที่ 2 ก.ย.62 ปีที่แล้ว ประมาณ 6 เดือนที่ผ่านมา นางสาวสุภาวดี ทองเรืองรักษ์ อายุ 42 ปี ครูแนะแนว โรงเรียนตรังคริสเตียนศึกษา จ.ตรัง ได้เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ. มังกร ชัยเพชร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง แล้วว่า หญิงสาวคนดังกล่าวได้เดินทางเข้ามาภายในซอยและเดินผ่านไป ก่อนที่จะวกกลับมาและเข้ามาภายในบ้านของตน เพราะเห็นว่าคุณแม่ซึ่งแก่ชรานั่งอยู่หน้าบ้านเพียงคนเดียว ก่อนเข้ามาพูดคุยและหิวน้ำขอกินน้ำหน่อย โดยคุณแม่ก็เข้าไปเอาให้ โดยที่กระเป๋าของคุณแม่ตั้งอยู่ด้วย ซึ่งข้างในมีเงินอยู่จำนวน 5,000 บาท หลังจากนั้นคุณแม่ได้เอาน้ำมาให้ดื่ม แล้วเดินออกไปทันที โดยบอกว่ารถที่ซ่อมไว้เสร็จแล้ว หลังจากนั้นพบว่าเงินจำนวน 5,000 บาท ที่อยู่ในกระเป๋าหายไป
ซึ่งพบว่าหญิงสาวคนดังกล่าวได้เข้าบ้านคนอื่นๆเช่นกันโดยมีพฤติกรรมแบบเดียวกัน คือขอเข้าห้องน้ำ และมักจะเลือกบ้านที่มีคนแก่ชราอยู่ และยังทราบข่าวว่าหญิงคนดังกล่าวได้แอบฉกทรัพย์เช่นนี้มาแล้วหลายราย โดยที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังจากเข้าแจ้งความแล้ว ก็ได้ลงมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ แต่ระบุว่ามีหลักฐานไม่เพียงพอ แม้จะเห็นหน้าตาคนร้ายชัดเจนแล้วก็ตาม ซึ่งเรื่องก็ได้เงียบหายไป จนมาก่อเหตุซ้ำๆเช่นนี้อยู่อีก ตนเองและคุณแม่หวาดกลัวอย่างมาก และได้ทำประตูเหล็กกั้นไว้เพราะเกรงว่าจะมีคนเข้ามาเช่นนี้อีก เพราะไม่มีความปลอดภัยเลย ซึ่งก็อยากจะฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจให้จับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ เพราะถือว่าเป็นบุคคลอันตราย ทำการหลอกและขโมยไปทั่ว โดยที่ตำรวจไม่สามารถทำอะไรได้เลย ถึงปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้ก่อเหตุซ้ำซากมาตลอด.