โซเซียลแชร์กระหึ่ม! 2 สาวชาวตรังกลุ่มเสี่ยงโควิด 19 กลับจากเกาหลีนั่งเครื่องบินลำเดียวกับ “นายหัวชวนฯ” และคณะ ทางด้าน “นายหัวชวน” และเลขาฯ “สมบูรณ์” ยืนยันเป็นเรื่องจริงแต่ไม่รู้มาก่อนหน้า ชี้แจงไม่ตื่นตระหนก แต่ต้องไม่ประมาท เชื่อมาตรการป้องกันอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ขณะที่ 2 สาวกลุ่มเสี่ยงถูกกักตัวทันที 14 วันหลังลงจากเครื่องบิน เผยเคยถูกกักตัวจากประเทศเกาหลีมาแล้ว 19 วัน ก่อนที่จะเดินทางกลับไทย เบื้องต้นอาการปกติไม่มีป่วยไข้
จากกรณีที่โลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพและข้อความระบุว่า “มีกลุ่มเสี่ยงโควิด 19 เป็นผู้หญิงจำนวน 2 คน เพิ่งกลับจากเกาหลี ลงเครื่องบินที่สนามบินตรัง ตอนนี้โดนกักตัวอยู่ที่ห้องแยกโรค รพ.ย่านตาขาว 14 วัน โดยมาเครื่องบินลำเดียวกับ นายชวน หลีกภัย” พร้อมกับมีภาพประกอบ ทำให้มีการแชร์ต่อออกไปเป็นจำนวนมาก
ข่าวคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ 9 มี.ค.63 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบ ที่บ้านวิเศษกุล ซึ่งเป็นบ้านพักของ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และอดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อที่จะสอบถามถึงกรณีดังกล่าว พบว่านายชวน ยังคงอยู่บ้านพักและใช้ชีวิตตามปกติโดยมีนักท่องเที่ยวและแขกเข้ามาพบอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะเดินทางไปเป็นประธานเปิดงาน ที่ จ.พัทลุง ในช่วงบ่ายของวันนี้
นายชวน กล่าวว่า วันนั้นเราได้นั่งเครื่องบินไลออนแอร์ตอนนั้นก็ไม่ได้ทราบเลยว่าผู้โดยสารเป็นใครบ้าง โดยเพิ่งมาได้ยินข่าวเมื่อวานนี้ เมื่อวานก็อยู่กับ แพทย์หญิงจิรวรรณ อารยะพงษ์ ผอ.โรงพยาบาลตรัง เขาก็ไม่ได้บอกอะไร ไม่มีใครพูดเรื่องนี้กันเลย ตอนนี้ก็ไม่ทราบเลยว่าเขาเป็นใคร ตอนนั้นผู้โดยสารก็เยอะพอสมควร ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร บางคนก็คุ้นหน้าคุ้นตากันมาบ้างลงเครื่องมาแล้วก็มาทักทายกัน ปกติตนเดินทางบ่อยก็ระวัง เช่นไม่จับมือกัน ซึ่งตนก็เริ่มทำแบบนี้มาตั้งแต่อยู่ในสภาแล้วตั้งแต่ต้นแล้ว แต่ว่าเราจะหยุดงานไม่ทำอะไรเลยมันก็ไม่ได้ก็ต้องทำเป็นปกติ แม้กระทั่งกิจกรรมบางอย่างถ้าเขายกเลิกเราก็ไม่ต้องทำ ส่วนงาน “เดิน วิ่ง เพื่อคนตรัง” เมื่อวานนี้ที่ผ่านมา (8 มี.ค.) เราก็ไม่สามารถยกเลิกได้ เพราะเขาได้จัดเตรียมงานไปหมดแล้ว เอาเงินมาแล้ว จำนวน 2,340,000 กว่าบาท เขาก็ต้องทำ เราก็ต้องมา
นายชวน กล่าวต่อไปว่า เราก็ต้องเชื่อที่สาธารณสุขเขาเตือน ก็ต้องระมัดระวัง เช่น เวลา ไอ จาม ก็ต้องระมัดระวัง อย่าให้มีปัญหากับคนอื่น ตนคิดว่าเราไม่ควรไปประมาท เราดูจากตัวเลขการลุกลามจากต่างประเทศด้วย บ้านเรานี้ต้องยอมรับว่างานด้านสาธารณสุข แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ บุคลากรสาธารณสุข เก่ง เพราะฉะนั้นต้องฟังให้ดีไว้ก่อน ตนคิดว่าวิธีมาตรการของเราอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่พี่น้องประชาชนไม่ต้องระวัง ตนเองก็เหมือนกันเนื่องจากต้องสัมผัสกับคนทุกวันมีคนเข้ามาที่บ้านบ้าง อยู่ที่กรุงเทพฯ ก็ต้องไปเป็นประทานงานศพ งานแต่งงาน อะไรต่างๆบ้าง ก็รู้ว่าอยู่ในภาวะที่เสี่ยงแต่ถ้าจะให้ปฏิเสธคงยาก ตนก็ระมัดระวังอยู่
ขณะที่ นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร เผยว่า ตนรับทราบเรื่องนี้จากโลกออนไลน์เช่นเดียวกัน โดยเมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา ตนเองและท่านชวนฯ พร้อมด้วยคณะ ได้เดินทางด้วยเครื่องบินไลออนแอร์ ต้นทางจากสนามบินดอนเมือง ปลายทางยัง จ.ตรัง โดยที่นายชวน มีภารกิจมาปฏิบัติหน้าที่ราชการที่ จ.ตรัง ในการเดินทางนั้นก็ไม่ทราบมาก่อนว่ามีบุคคลที่กลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง คือประเทศเกาหลี นั่งร่วมมาด้วย โดยที่เพิ่งมาทราบหลังจากที่มีการแชร์ข้อมูลกัน หลังจากนั้นตนเองจึงได้มีการสอบถามข้อเท็จจริง ก็ทราบว่า ผู้ที่เดินทางมาจากเกาหลีทั้ง 2 ท่านไม่ได้มาจากสองเมืองที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 ในกฎหมายของเกาหลีทราบว่าทั้ง 2 ท่านถูกกักตัวอยู่ที่เกาหลีมาแล้ว19 วัน โดยที่ไม่มีอาการป่วย หรือไข้แต่อย่างใด จึงได้เดินทางกลับมาประเทศไทย แต่ตามกฎหมายของประเทศไทย ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศเสี่ยง ก็จะต้องมีการกักตัวอีก 14 วัน ไม่ว่าจะมาจากจีน ไต้หวัน หรือฮ่องกง รวมถึงเกาหลี ญี่ปุ่น อิหร่าน และอิตาลี ก็ต้องกักตัว 14 วันเช่นกัน
นายสมบูรณ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทั้ง 2 ราย ถูกกักตัวไว้ และได้รับรายงานมาว่าไม่มีอาการป่วยใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้ขณะที่เดินทางบนเครื่องบิน ทั้ง 2 ท่านก็นั่งบริเวณท้ายลำ ส่วนท่านชวนฯ เองนั่งอยู่ส่วนหน้าของลำ ตนคิดว่าท่านชวนฯ คงจะทราบเรื่องนี้แล้ว ตนเองก็สอบถามทั้งทางโรงพยาบาลและทางสายการบิน ก็ได้ข้อมูลมาอย่างนี้ และต้องยอมรับว่าทุกคนที่เดินทางมาจากประเทศเสี่ยงก็ไม่ได้หมายความว่าจะติดโรคทุกคน ในเมื่อมีการเดินทางก็ต้องมีภาวะเสี่ยงอยู่แล้ว แต่ก็ต้องได้รับการปฏิบัติตามกฎหมาย เช่นเขามาจากพื้นที่เสี่ยงก็ต้องมีการกักตัว ตนเองก็เห็นตามสื่อก็รู้สึกชื่นชมเขาที่ปฏิบัติตัวอย่างดี หมอก็บอกว่าตอนนี้ก็ไม่มีอาการป่วยใด ๆ ส่วนท่านชวนก็ไม่ได้มีการตรวจสุขภาพเนื่องจากไม่ได้สัมผัสอะไรกันเลย แต่หากมีไข้หรือมีอาการ ก็อาจจะต้องเข้ารับการตรวจตามขั้นตอนต่อไป เช่นเดียวกับทุก ๆ คนที่เมื่อมีไข้ ก็จะต้องไปตรวจเช็คอาการ.
