คืบหน้าสาวเมืองตรังวัย 23 ปี พยายามผูกคอตัวเองพร้อมลูกสาวในท้อง อายุครรภ์ 8 เดือน อาการดีขึ้น แพทย์ยังไม่ให้กลับบ้าน ชี้ป่วยซึมเศร้าระยะสุดท้าย ส่วนลูกสาวในท้องอาการร่อแร น้ำหนักไม่ถึงเกณฑ์-หัวใจเต้นอ่อน หลังเจอมรสุมชีวิตอย่างหนัก ต้องกินเม็ดมะม่วงหิมพานต์คลุกน้ำตาลแทนข้าว ผู้นำท้องถิ่นเร่งเข้าช่วยเหลือ วิงวอนหน่วยงานรัฐ-ผู้ใจบุญเข้าช่วยด่วน
จากกรณี น.ส.เตย(นามสมมุติ) อายุ 23 ปี ชาวบ้านพื้นที่ หมู่ 6 บ้านหาดยาว ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ตั้งท้องลูกสาวคนแรก อายุครรภ์ประมาณ 8 เดือนกว่า ได้ใช้เชือกไนล่อนผูกคอตัวเองกับขื่อบ้าน แต่โชคดี นางอะ หรือหยั่ง (สงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี ผู้เป็นย่าซึ่งอาศัยอยู่บ้านเดียวกัน ได้เข้ามาพบเจอและช่วยเหลือได้ทันควันก่อนจะประสานเจ้าหน้าที่รพ.กันตัง มารับตัว และนำส่ง รพ.ศูนย์ตรังในเวลาต่อมา ซึ่งสาเหตุมาจากการป่วยเป็นโรคซึมเศร้าระยะสุดท้าย อีกทั้งฐานะยากจน ไม่มีเงินใช้จ่าย ต้องอดมื้อกินมื้อ อาศัยเก็บหาเม็ดมะม่วงหิมพานต์คลุกน้ำตาลประทังชีวิต ประกอบกับโดนสามีทิ้งอย่างไม่มีเยื้อใย
ล่าสุดวันนี้ 29 มี.ค.63 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านที่เกิดเหตุอีกครั้ง ตั้งอยู่เลขที่ 138/5 หมู่ 6 บ้านหาดยาว ต.เกาะลิบง (อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม) พร้อมด้วย นายยงยุทธ สักหลัด หรือผู้ใหญ่สุข ไปพบ นางอะ หรือหยั่ง (สงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี เป็นย่า และน.ส.พนิดา บ่อม่วง อายุ 38 ปี เป็นน้าสาว รวมทั้งญาติพี่น้อง และบรรดาเพื่อนบ้านต่างอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก และต่างมาร่วมให้กำลังใจ และหลังจากที่มีการนำเสนอข่าวออกไป ทางผู้ใจบุญก็ต่างนำข้าวสารอาหารแห้งมาให้กับครอบครัว บางส่วนก็ได้โอนเงินเข้ามาช่วยเหลือ ขณะที่ทาง น.ส.เตย (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี ยังคงพักรักษาตัวที่ รพ.ตรัง
ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.พนิดา น้าสาวของ น.ส.เตย (นามสมมุติ) เล่าว่า ขณะนี้อาการของ น.ส.เตย มีอาการดีขึ้น แต่สภาพจิตใจยังไม่ดีขึ้นมีอาการเหม่อลอยอยู่ตลอดเวลา นึกจะพูดก็พูด จะยิ้มก็ยิ้ม จะเสียใจร้องไห้ ซึ่งมีอาการแบบนั้นอยู่ตลอดเวลา ส่วนลูกสาวในท้องยังไม่ดีขึ้น หัวใจยังเต้นไม่ปกติ ซึ่งทางแพทย์ที่รักษาก็แจ้งมาว่าให้นอนรอดูอาการก่อนประมาณ 3-4 วัน และต้องเฝ้าตลอด 24 ชม. หากได้กลับมาบ้านก็คงต้องมีคนเฝ้าตลอดเวลา สำหรับ น.ส.เตย(นามสมมุติ) ก่อนหน้านี้น้องทำงานอยู่ที่พัทยา จ.ชลบุรี หลังจากที่สามีทราบข่าวว่าตั้งท้องก็ได้ทิ้งไปอย่างไม่มีเยื่อใย ทำให้น้องต้องกลับมาอาศัยอยู่ที่บ้านเพียงลำพังกับลูกในท้อง หลังจากนั้นก็เริ่มเก็บตัวอยู่คนเดียว ไม่พูดกับใคร เก็บอาการ และพยายามใช้มีดกรีดแขนตัวเองอยู่หลายครั้ง แต่ก็มีคนที่บ้านห้ามปรามไว้ได้ เมื่อสอบถามกลับได้คำตอบว่ากรีดเพื่อความสนุก
น.ส.พนิดา กล่าวอีกว่า หลังจากที่ตรวจพบว่าเป็นโรคซึมเศร้าก็ไม่ได้ทำการรักษาและรับประทานยา ประกอบกับฐานะทางบ้านยากจน ไม่มีแม้แต่ข้าวจะกิน อาหารประจำคือต้องกินเม็ดมะม่วงหิมพานต์คลุกน้ำตาลประทังชีวิต หลังจากนี้แพทย์แจ้งว่าจะต้องมีคนเฝ้าน้องอยู่ตลอด 24 ชม.และให้คนรอบข้างคอยให้กำลังใจ ตอนนี้ก็อยากให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือ เพราะน้องเขาขาดที่พึ่ง ทางญาติพี่น้องก็ไม่มีเงินหรือทางที่จะช่วยเหลือได้เลย อยากได้บ้านหรือกระท่อมเล็กๆให้น้องได้อยู่ เพราะที่อยู่ตอนนี้ไม่ใช้บ้านของตนเอง แถมปลูกอยู่ในพื้นที่อุทยานฯ และไม่มีเงิน ตอนนี้ตนเองกลัวหลานและลูกในท้องจะตายอย่างเดียว ถึงแม้จะคลอดลูกแล้ว อาการป่วยซึมเศร้าของน้องก็ยังคงไม่หาย กลัวเหตุการณ์สะเทือนขวัญเช่นนี้จะกลับมาเกิดซ้ำรอยอีก สุดท้ายต้องขอบคุณผู้ใหญ่สุข เป็นอย่างมากที่ช่วยเหลือมาอย่างตลอด
ขณะที่ทาง นายยงยุทธ หรือผู้ใหญ่สุข กล่าวว่า ขณะนี้ได้ประสานไปยังทางนายอำเภอ นายก อบต.เกาะลิบง และกำนัน ทราบแล้ว หลังจากนี้จะต้องหาทางช่วยเหลือก่อนในเบื้องต้น และจะต้องช่วยเหลือในระยะยาวรวมทั้งเยียวยาทั้งทุนทรัพย์และดูแลทางด้านจิตใจ หลังจากที่น้องเขาออกมาจาก รพ.และคลอดลูกออกมาแล้ว หลังจากที่ข่าวเผยแพร่ออกไปก็มีผู้ใจบุญติดต่อเข้ามาจะช่วยเหลือ และนำของมาให้แล้วบางส่วน ตนเองก็สงสารเด็กและครอบครัวนี้เป็นอย่างมากและจะช่วยเหลือรวมทั้งประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้อย่างดีที่สุด
ทางด้าน นายประวิทย์ วิเศษศาสตร์ อายุ 43 ปี อาชีพประมงพื้นบ้าน และเป็นเพื่อนบ้าน กล่าวว่า นิสัยส่วนตัวของน้องในอดีตก็เป็นคนร่าเริง แต่กลับกันกับตอนนี้คนละอย่าง ตนเองก็เห็นครอบครัวนี้มาตลอด ก็สงสารเพราะครอบครัวเขาค่อนข้างลำบาก ไม่มีงาน ประสบปัญหานี้มายาวนาน รายได้หลักก็มาจากการเก็บหาของป่า และเก็บของเก่า ตนเองก็เคยให้เงินเพื่อซื้อข้าวบ้างเพราะอดสงสารไม่ได้ อยากจะให้หน่วยงานต่างๆเข้ามาช่วยเหลือ เพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยมีเข้ามาเลย มีแค้เพียงผู้นำท้องถิ่นที่คอยหยิบยื่นเข้ามาให้
อย่างไรก็ตาม หากมีผู้ใจบุญจะช่วยเหลือก็สามารถโอนเงินผ่านเข้ามาทางบัญชีเงินฝากเผื่อเรียก ธนาคารออมสิน สาขากันตัง ชื่อผูกฝาก นางอะ ชิเดะ (ย่าของ น.ส.เตย) บัญชีเลขที่ 020159928926 และสามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทร 065-819-2236 นายยงยุทธ สักหลัด หรือผู้ใหญ่สุข”