กองทัพภาคที่ 4 มอบเตียงนอนและรถเข็นให้แม่ “จ่าจำปา” เมียเผยความรู้สึกเหนื่อยมากหลังจากไม่มีจ่า ต้องรับภาระคนเดียว สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้จ่าต้องมีมลทินไปตลอดชีวิต สารภาพภาระทุกอย่างอยู่ที่ตัวเอง เงินเดือนจ่าเหลือแค่ 4 พันบาท
จากกรณี จ.ส.อ.พีรศักดิ์ จำปา หรือจ่าจำปา กำลังพลสังกัด ร้อย.ลว.ไกล.5 พล.ร.5 หลังมีบทลงโทษ 1.ลงทัณฑ์โดยการ “จำขัง” 45 วัน ณ เรือนจำ มทบ.43 และส่งไปฝึกที่ศูนย์ฝึกธำรงวินัย กองทัพภาคที่ 4 (มทบ.41) 2.งดบำเหน็จประจำปี 2563 (ครึ่งปีหลัง) ตามที่เป็นข่าวนั้น เนื่องจากตกเป็นข่าวเกิดการโต้เถียงกับ นายลือชัย เจริญทรัพย์ ผวจ.ตรัง และนายอนันต์ พรหมเพียรพงศ์ นายอำเภอรัษฎา เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา บริเวณจุดคัดกรอง หมู่ 9 ต.หนองบัว อ.รัษฎา จ.ตรัง เนื่องจากเร่งรีบมารับมารดาที่มีการเจ็บป่วยหนักต้องนำส่ง รพ.ตรัง เป็นการเร่งด่วน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ข่าวคืบคืบหน้าล่าสุด วันนี้ 21 เม.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเช่าเลขที่ 25/6 ถนนรัชชูปภา ต.ห้วยยอด อ.ห้วยยอด จ.ตรัง พบ น.ส.กัญญาวรรณ โท่ธรรม อายุ 35 ปี ภรรยาจ่าจำปา และ น.ส.ธิดา โพธิ์สมบัติ อายุ 40 ปี พี่สาวของภรรยา กำลังช่วยเหลือกันดูแล นางสุกาญจน์ทิพ จำปา อายุ 61 ปี มารดาจ่า พร้อมทั้งวันนี้ทาง กองทัพภาคที่ 4 มอบหมายให้โรงพยาบาลค่ายเทพสตรีสุนทร อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช นำเตียงนอนและรถเข็น มามอบให้กับมารดา ของจ่าจำปา
น.ส.กัญญาวรรณ เผยว่า วันนี้ก็มีทางทหารเข้ามามอบเตียงและรถเข็นให้ ในส่วนของความรู้สึกของคุณแม่ในขณะนี้ก็รอลูกชายอยู่ทุกวัน เมื่อเห็นทหารมาก็คิดว่าลูกชายจะมาด้วยเหมือนเมื่อวานนี้ ซึ่งตอนนี้คุณแม่ยังไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น ในขณะที่เงินเดือนของจ่าจำปา ทั้งหมด 24,000 บาท หักเงินค่าที่กู้ยืมเพื่อรักษาแม่ แต่ละเดือนก็เหลือแค่ 4,000 บาท ซึ่งจะต้องมาแบ่งเป็นค่าใช้จ่ายกับแม่ส่วนใหญ่ ซึ่งในแต่ละเดือนบอกเลยว่าไม่พอ
น.ส.กัญญาวรรณ กล่าวอีกว่า ในส่วนที่จ่าจำปาไปกู้ยืมมาเพื่อรักษาแม่ทำให้เงินเดือนเหลือแค่ 4,000 บาท ทำให้ภาระค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ตกที่ตัวเอง ซึ่งหลังจากที่จ่าต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็ได้รับผลกระทบ คือมันจะเหนื่อยมากขึ้น ต้องดูแลแม่ที่นอนป่วย ซึ่งหลังจากเมื่อวานนี้ก็ยังไม่ได้นอนพักเลย ส่วนตัวเองทำอาชีพค้าขายผลไม้ก็ยังทำงานได้อยู่เพราะมีพี่สาวเฝ้าให้ แต่ก็เหนื่อยเป็นเท่าตัว จากปกติที่พี่จ่าแกเคยมาช่วยตรงนี้ และไปช่วยพี่ที่ร้าน กลับเป็นว่าพี่ต้องทำงานคนเดียว ตอนนี้ก็ได้แค่เฝ้ารอว่าทางหน่วยงานพี่จ่าเขาจะมีการพิจารณาคำสั่งใหม่ ที่ต้องการคืออยากได้ความยุติธรรม คือนั่งรอแบบไม่มีจุดหมาย อยากให้หน่วยงานเห็นความดีของแกบ้างที่แกได้ทำมา ถ้าถามกี่ครั้งก็ยังตอบคำเดิมว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันเกินไป ไหนจะประวัติที่ไม่ดี หลังจากนี้ทำให้เขาต้องมีมลทินติดตัวกับเขาไปตลอดชีวิต มันก็ไม่ค่อยแฟร์ เท่าไร ภรรยาจ่ากล่าวทิ้งท้าย.