ทึ่ง“น้องสงกรานต์” หนูน้อย วัย 6 ขวบ สติดี เล่านาทีระทึก! เรียก พี่ชาย-น้องสาว ขณะนอนหลับ ให้หนีไฟที่กำลังโหมหนัก ลุกไหม้บ้าน รอดตายหวุดหวิด 4 ชีวิตปลอดภัย
จากกรณีที่เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเลขที่ 85/2 ถนนซอยท่าเรือ หมู่ 2 ต.ท่าข้าม อ.ปะเหลียน เป็นบ้านชั้นเดียว ก่ออิฐถือปูน มุงด้วยกระเบื้อง เปลวไฟกำลังลุกโชนอยู่บริเวณตัวบ้านด้านขวา ระหว่างห้องโถงและบริเวณหน้า โดยขณะเกิดเหตุ ด.ช.จิรายุ หูเขียว หรือน้องสงกรานต์ อายุ 6 ขวบ กำลังเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนบ้านหยงสตาร์ ลูกชายเจ้าของบ้านเรียกพี่ชาย และ น้องสาว ที่กำลังนอนหลับภายในห้องอีก 3 ชีวิต ให้ออกจากบ้าน ก่อนเรียกคนช่วย เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.จนกระทั่งเพลิงได้สงบลง ลูกเจ้าของบ้าน 4 ชีวิตที่กำลังนอนหลับภายในบ้านรอดตาย หวุดหวิด
ต่อมาวันนี้วันที่ 8 มิ.ย.63 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านจุดที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ สภาพบริเวณเพดานบ้านถูกไฟไหม้เกือบทั้งหลัง ข้าวของเครื่องใช้ถูกยกออกมาวางหน้าบ้าน ส่วนเจ้าของบ้าน และลูกๆได้อาศัยบ้านแม่ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน
จากการสอบถาม ด.ช.จิรายุ หรือน้องสงกรานต์ เล่าว่า ขณะที่ตนนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือ อยู่นั้น ได้เห็นเปลวไฟ และมีแสงไฟที่กำลังช็อตอยู่ จากหลังคา จึงรีบเรียกพี่ๆและน้องที่กำลังนอนอยู่ในห้องนอนว่าไฟไหม้ และตนจึงวิ่งออกมาข้างนอกว่าไฟไหม้ ทุกคนได้ช่วยกันนำน้ำมาสาดไฟ แม่ก็กลับมาบ้านและได้ร้องไห้ตนก็ห้ามแม่ว่าอย่าร้องไห้ แต่แม่ก็ยังร้องไห้อยู่ ตนจึงบอกรักแม่ ตอนนั้นรู้สึกตกใจ และกลัว เพาะตอนนั้นไฟได้ย้อยตกลงมาบนหมอนที่ตกกำลังนอนอยู่ ตนรู้สึกร้อนและรีบลุกวิ่งไปบอกพี่และให้คนช่วย
ด้าน นางพรพรรณ หูเขียว อายุ 42 ปี เป็นแม่ กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุตนรู้สึกช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กลัวความปลอดภัยของลูกทั้ง 4 คน ตอนนั้นสิ่งที่นึกถึงคืออ่านดูอาร์ตามศาสนาอิสลามนึกถึงอัลเลาะห์ หรือการสวดมนต์ขอพรตามศาสนาพุทธ อันดับแรกคือขอให้ทุกคนปลอดภัย ทรัพย์สินภายในบ้านเราสามารถหามาใหม่ได้ แต่ชีวิตลูกๆเราไม่สามารถทดแทนได้ ตอนนั้นตนรู้สึกว่าต้องตั้งสติให้ได้ เมื่อเห็นลูกๆปลอดภัยก็รู้สึกโล่งใจ แต่เมื่อเห็นสภาพบ้านความฝันที่เคยฝันว่าอยากมีบ้านและได้มีเป็นของตัวเองแล้ว เพราะตนก็ไม่ได้เรียนจบสูงๆอาศัยการทำมาหากินอย่างลำบากจนได้บ้านมา แต่ตอนนี้เหมือนฝันสลาย มูลค่าความเสียหายตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 4-5 แสนบาท เพราะอุปกรณ์ภายในบ้าน โครงสร้างบ้านพังเสียหาย ตนอยากขอบคุณทุกคนที่มาช่วย ทั้งช่วยที่บ้าน เป็นกำลังใจให้ ทั้งมีส่วนร่วมในการช่วยดับไฟ หลังจากเกิดเหตุก็รู้สึกท้อ ไม่รู้จะอยู่ที่ไหน จากปกติมีที่นอนในบ้าน ตอนนี้ก็อยู่บ้านแม่ แต่ด้วยความที่ลูกหลายคนก็ลำบาก
สำหรับน้องสงกรานต์ ปกติจะเป็นเด็กที่มักจะดู Youtube บ่อย ซึ่งบางช่องทางจะมีขั้นตอนการใช้ชีวิต คอยสอนเด็ก ปกติเมื่อเกิดเหตุการณ์อะไรสิ่งแรกที่เขาจะทำคือเรียกพี่ก่อนเสมอ และเป็นคนที่ตื่นเช้าก่อนทุกคน เวลาตี 5 ก็ตื่นมาแล้ว ส่วนน้องๆและพี่ๆจะตื่นสาย ช่วงเกิดเหตุ หลังจากที่น้องสงกรานต์เห็นประกายไฟก็จะวิ่งออกมาดูก่อนเข้าไปเรียกพี่และปลูกน้องผู้หญิงที่กำลังนอนหลับอยู่ แต่ไม่ตื่นก็เปิดตาน้องให้ดูว่าไฟไหม้บ้าน ส่วนพี่ชายอีก 2 คนอยู่คนละห้องกัน ก็ไปเรียกพี่ชาย เพื่อขอความช่วยเหลือจากคนอื่นๆ ตอนเกิดเหตุตนได้ร้องไห้ น้องสงกรานต์ก็มาถามว่า”แม่ร้องทำไม ผมยังเล็กยังไม่ร้องเลย “ ปกติก็มักจะปลอบตนเสมอ
ด้านนางวันดี จงภักดี อายุ 61ปี มีตำแหน่งเป็นสมาชิกสภา อบต.ท่าข้าม กล่าวว่า ตอนนี้ ทาง อบต.ได้ช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว ด้วยการนำถุงยังชีพมาให้ พร้อมเงิน 30,000 กว่าบาท ซึ่งเป็นงบจากป้องกันภัยจังหวัดที่ให้ อบต.เป็นคนรับผิดชอบก็มอบให้แล้ว ส่วนที่เสียหายก็รอหน่วยงานมาช่วยอีกที อาจจะเป็นของเหล่ากาชาดมาช่วย ตอนนี้มีการประสานแล้ว นอกจากนี้ยังมี คณะครู อาจารย์ จากโรงเรียนบ้านหยงสตาร์ และโรงเรียนทุ่งยาวผดุงศิษย์ ที่น้องเรียน มาช่วยแล้ว.