สลดใจ! ผัวคลั่งยานรกจ่อเมียตัดขั้วหัวใจคาบ้าน ภาพสะเทือนใจขณะอุ้มลูกน้อยวัย 10 เดือนอยู่ในอ้อมอกลูกตายังเปิด หลังก่อเหตุรีบเผ่นหนีทิ้งอาวุธปืนก่อนดอดเข้ามอบตัว อ้างแค้นเมียไปทำงานนอกบ้าน-แอบปันใจให้ชายอื่น ขณะที่ญาติเผยสามีติดยาอย่างหนัก หึงเมีย ไม่ทำงานทำการชอบทำร้ายร่างกายขอเงินไปซื้อยาบ้าเป็นประจำ
เหตุการณ์ได้รับการเปิดเผย เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 11 ก.ค.63 ร.ต.อ.สิโรฒ จริยวิจิตร รอง สว.(สอบสวน) สภ.ห้วยยอด จ.ตรัง ได้รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายหลังบ้านเลขที่ 85 หมู่ 4 บ้านในเหยา ต.ห้วยยอด หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประดิษฐ ชัยพล ผกก. พ.ต.ท.เมธี จันทร์งาม รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ประเสริฐ สงแสง รอง ผกก.(สอบสวน) กำลังชุดสืบสวน ก่อนแจ้งประสานไปยัง ตร.กองพิสูจน์หลักฐาน จ.ตรัง รุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ
บนพื้นดินข้างบ้านพบกองเลือดเจิ่งนองกระจายเกลื่อน ใกล้กันมียางผูกผม กระพรวนของผู้ตาย และสร้อยคอสแตนเลสของผู้ก่อเหตุตกอยู่ ส่วนผู้ตายญาติได้นำร่างส่ง รพ.ห้วยยอดไปก่อนหน้านี้แล้ว ทราบชื่อคือ น.ส.สุพัฒศร สามชุก หรือฝน อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85 หมู่ 4 ต.ห้วยยอด อาชีพลูกจ้างร้านปลาเผา แพทย์ชันสูตรพลิกศพถูกจ่อยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองพกสั้นไทยประดิษฐ์ (ค้อนตราควาย) จำนวน 1 นัด กระสุนเจาะเข้าที่หัวใจ เป็นแผลเหวอะหวะ ส่วนผู้ก่อเหตุคือสามีของผู้ตาย คือ นายสัมพันธ์ แคล้วคลาด หรือนุ้ย อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85 หมู่ 4 ต.ห้วยยอด อาชีพรับจ้างทั่วไป ซึ่งเป็นสามี ได้หลบหนีไป
ต่อมา นายสัมพันธ์ สามีโหดผู้ก่อเหตุได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือยิงเมียตัวเองจริง โดยอ้างว่าโกรธแค้นที่ผู้ตายซึ่งเป็นภรรยาไปทำงานข้างนอกบ้าน และปันใจแอบคุยกับชายอื่นผ่านโทรศัพท์มือถือก่อนจะลงมือก่อเหตุ หลังจากเกิดเหตุได้วิ่งหลบหนีเข้าไปภายในป่าหลังบ้าน ในพื้นที่ ต.เขาปูน ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุได้โยนทิ้งน้ำในขุมเหมือง หมู่ 1 ต.เขาปูน ในระหว่างหลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตร.กำลังอยู่ในระหว่างการค้นหาของกลาง ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้ตรวจปัสสาวะผู้ก่อเหตุพบว่าเป็นฉี่ม่วง
จากการสอบสวน นางสุพิศ ชูด้วง อายุ 50 ปี แม่ผู้ตาย กล่าวว่า แม่ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนก็อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร ได้ยินเสียงปืนแต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร คิดว่าลูกเขยจะเล่นปืน เพราะมักจะลองยิงปืนเป็นประจำ ตนก็ออกไปดูที่บ้านลูกสาว พบภาพสะเทือนใจว่าลูกสาวนอนกอดลูกชาย วัย 10 เดือนอยู่ในอ้อมอก สภาพจมกองเลือด มีเลือดออกทางจมูก ปาก ลืมตาอยู่ แต่พูดอะไรไม่ได้แล้ว เพราะถูกปืนจ่อ ตนรีบพาลูกสาวมาที่โรงพยาบาลใช้เวลา 10 นาที ถึงโรงพยาบาล ส่วนลูกเขยคนก่อเหตุได้หลบหนีไป ทั้งนี้ทราบว่าก่อนเกิดเหตุลูกสาวและลูกเขยมีปากเสียงกัน เรื่องที่ลูกเขยไม่ให้มาทำงานที่ร้านปลาเผา ในตลาดห้วยยอด เพราะเกิดความหึงหวงกลัวว่าเมียจะนอกใจ แต่ลูกสาวบอกว่าเงินไม่พอใช้ เพราะต้องส่งลูกสาว อายุ 12 ขวบเรียนหนังสือ ส่วนลูกคนเล็กก็ต้องกินนม
นางสุพิศ เล่าอีกว่า ที่ผ่านมาทั้งคู่ก็มีปากเสียงทะเลาะเป็นประจำ และทุกครั้งที่มีปัญหาลูกสาวมักจะมานอนบ้านตนตลอด ตนก็อยากให้ลูกสบายใจก็จะให้มานอนด้วย ไม่อยากให้เลิกรากัน ตนเองมักจะเตือนลูกเขยเสมอให้เป็นคนดี อย่ายุ่งเรื่องยาเสพติด ตนรู้ว่าลูกเขยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดไม่สนใจลูกเมีย หลายครั้งที่มักจะขอเงินจากลูกสาวเพื่อมาซื้อยาไปเสพ แต่ลูกสาวมักจะไม่ให้เพราะไม่พอใช้จ่ายซื้อนมให้ลูก ปกติลูกเขยมักมีพฤติกรรมหวาดระแวงว่าลูกสาวจะนอกใจ และตามที่ลูกเขยให้การกับตำรวจว่าลูกสาวนอกใจ ตนคิดว่าไม่มีทางที่ลูกตนจะนอกใจ เพราะมีลูกคนเล็กอายุเพียง 10 เดือน กินอยู่ด้วยกันมา 12 ปี แล้ว ถ้านอกใจจริงลูกสาวก็ต้องไปแล้ว ตนคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากเรื่องยาเสพติด ที่ลูกเขยพยายามขอเงินเพื่อมาซื้อยาเสพติด แต่ไม่ได้ จึงเกิดมีปากเสียกัน ลูกสาวไม่มีให้เพราะค่าใช้จ่ายก็เยอะ ได้รับรายได้เพียงวันละ 350 บาท ต้องจ่ายค่าจ้างเลี้ยงลูก ค่าใช้จ่ายอื่นๆในครอบครัวอีก ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์นี้มาก แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว ก็ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นไปตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่ นายพรชัย บัวทอง อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 ม.4 บ้านในเหยา ต.ห้วยยอด อ.ห้วยยอด จ.ตรัง อาชีพก่อสร้าง ซึ่งเป็นน้าผู้เสียชีวิต มีบ้านพักอยู่ตรงกันข้าม กล่าวว่า ที่ผ่านมามักจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นประจำ ที่ผ่านมาเขาทะเลาะกันบ่อย ตนก็ไม่รู้สาเหตุ ปกติเวลาทะเลาะตนก็มักจะห้ามปรามประจำอยากให้อยู่กันแบบครอบครัว เพราะมีลูกด้วยกัน 2 คนแล้ว ก็เป็นห่วง ช่วงเช้าวันนี้ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ตนก็คิดว่าไม่มีอะไรเพราะได้ยินมาบ่อย แต่เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุพี่สาวก็ร้องไห้ และเห็นหลานสาวนอนอยู่ ตอนนั้นก็รู้สึกใจคอไม่ดีแล้ว แต่ไม่เจอคนยิงแล้วหนีไปแล้ว ปกติหลานเขยมีนิสัยดี ตอนเมาก็ไม่เคยระรานใคร แต่มีเสพยาด้วย ตนก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะต้องเสียหลานสาวไป
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ ตร.ได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต.
