เมียอดีตกำนันวัย 68 ปี ผวา! ไม่กล้านอนบ้าน หลังจากศพกระเด็นมาตกหน้าบ้าน 2 ศพ ต้องทำบุญอุทิศส่วนกุศลตามพิธีศาสนาอิสลาม ขณะเดียวกันได้ประสานญาติผู้ตายมาทำพิธีเชิญวิญญาณกลับ ขณะที่ชาวบ้าน เผยจุดเสี่ยงรถราขับเร็วมากเพราะเป็นทางตรง ตายมาแล้วกว่า 10 ศพ และพ่อตัวเองเคยโดนรถชนเสียชีวิตตรงนี้
วันนี้ 9 ส.ค.63 ผู้สื่อข่าวไทยรัฐ จ.ตรัง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุรถกระบะพุ่งชนรถ จยย.มีผู้เสียชีวิต 3 ราย อาการโคม่า 2 ราย เหตุเกิดบนถนนสายตรัง-สตูล บริเวณพื้นที่ ม.1 ต.ลิพัง อ.ปะเหลียน จ.ตรัง พบร่องรอยคราบเลือด และเศษชิ้นส่วนอะไหล่รถ จยย. รองเท้าบูทยาง ปิ่นโต ข้าวห่อเหนียวไก่กระจัดกระจายอยู่เกลื่อน บริเวณริมถนนหน้าบ้านเลขที่ 71/1 ม.1 ต.ลิพัง อ.ปะเหลียน ซึ่งเป็นบ้านของ นายไสว ทองเกื้ออดีตกำนัน ต.ลิพัง
นางประหยัด ทองเกื้อ อายุ 68 ปี ภรรยาของอดีตกำนัน ต.ลิพัง อยู่บ้านเลขที่ 71/1 ม.1 ต.ลิพัง อ.ปะเหลียน จ.ตรัง เล่าว่าเมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 08.30 น. ตอนเกิดเหตุตนอยู่ที่สวนยางพารา จู่ๆ ก็มีคนโทรบอกว่ารถชนที่หน้าบ้านอดีตกำนันซึ่งเป็นบ้านของตน เมื่อมาถึงหน้าบ้านตนก็เห็นว่ายังไม่มีตำรวจเข้ามามีคนนอนตายจมกองเลือดอยู่หน้าบ้าน ตนจึงรีบกลับมาดูเห็นรถกระบะจอดอยู่ที่ใต้ต้นมะพร้าวข้างๆ บ้านลูกพะพร้าวตกลงมาเต็มใต้โตนต้น แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีศพอยู่หน้าบ้านของตน เป็นผู้หญิงทั้งสองคน ตนเห็นแล้วรู้สึกไม่สบายใจ สงสารคนที่หายใจรวยรินก่อนเสียชีวิตทั้งสองราย ตนได้ขอพรพระอัลเลาะห์ (ดุอาร์) ตามหลักศาสนาอิสลาม สักพักนึงรถโรงพยาบาลก็มาถึง
นางประหยัด เล่าต่อไปอีกว่า หลังจากเกิดเหตุนั้นเมื่อคืนตนก็ไม่กล้ามานอนที่บ้านต้องไปนอนบ้านลูกในสวน เพราะลูกก็เป็นห่วงไม่อยากให้นอนที่บ้านหลังนี้ เมื่อเช้าญาติคนตายได้นิมนต์พระมาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณแล้ว 1 ศพ ยังรอญาติอีกศพ ส่วนตนนั้นวันนี้ญาติได้ทำบุญตามหลักศาสนาอิสลามด้วยเช่นกัน
ตอนเกิดเหตุนั้นเบาะรถ จยย.ได้กระเด็นขึ้นมายังหลังคาบ้านตน หลังคาทะลุเป็นรู ตนอยากฝากบอก ดวงวิญญาณทั้ง 2 ศพที่ตายหน้าบ้านตนว่าให้ไปสู่สุคติ อย่ามาอยู่หน้าบ้านตนเลยให้กลับไปอยู่ที่บ้านตัวเองให้ดวงวิญญาณไปสู่สุขคติ อย่ามาหลอกหลอน ขอให้เขาไปดี และขณะที่ญาติเขามาทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณตนก็ได้พูดไปแล้ว
ขณะที่ นางลัดดา ทองเกื้อ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85/2 ม.1 ต.ลิพัง อ.ปะเหลียน จ.ตรัง อาชีพรับจ้าง กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาถนนเส้นนี้ซึ่งเป็นทางตรงก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยมาก อยากให้ผู้ขับขี่ที่สัญจรไปมาลดความเร็วลงบ้าง อยากให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องหาทางแก้หรือมาตรการทำอย่างไรก็ได้เพื่อลดความเร็วลงบ้าง ให้มีการตั้งกรวยหรือสัญลักษณ์อะไรก็ได้เพื่อเตือนผู้ขับขี่ ช่วยชะลอความเร็วในเขตชุมชน ช่วงที่ตั้งด่านตรวจโควิด-19 ก่อนหน้านี้นั้นลดปัญหาลงไปเยอะ ผู้ขับขี่มีการชะลอรถ ก็ไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ต้นคิดว่าหากยังปล่อยแบบนี้ไปอาจจะเกิดอุบัติเหตุซ้ำรอยขึ้นอีก เพราะคนที่ใช้ถนนเส้นนี้ขับขี่ด้วยความเร็วกันทั้งนั้น ก่อนหน้านี้เมื่อหลายปีที่แล้ว พ่อของตนก็ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถที่มาด้วยความเร็วเสียหลักชนระหว่างที่พ่อยืนอยู่ข้างถนนหน้าบ้านเช่นกัน.