โกลาหล! ชาวบ้านหนองบัววิ่งหนีเข้าบ้าน ฤทธิ์พายุฝนพัดถล่มเสียหายกว่า 30 หลัง กระเบื้องหลังคาบ้านปลิวว่อนยกหลัง ขณะที่ นายกเทศมนตรี ต.นาตาล่วง ประกาศเป็นเขตพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว ยื่นมือช่วยเหลือด่วน ขณะที่ชาวบ้าน เผยเกิดมา 59 ปี เพิ่งเจอพายุหมุนต่อหน้าต่อตา
เมื่อเวลา 16.00 น. เย็นวันที่ 25 ส.ค.63. ได้เกิดฝนตกหนักและพายุหมุน ในพื้นที่ ม. 4 บ้านหนองบัว ต.นาตาล่วง อ.เมือง จ.ตรัง สร้างความเสียหายบ้านเรือนประชาชน ถูกพายุพัดหลังคาปลิวว่อนเสียหายกว่า 30 หลัง ชาวบ้านต้องเคลื่อนย้ายของออกนอกบริเวณบ้าน เด็กเล็ก คนชรา ใช้ชีวิตลำบาก พืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านเสียหาย เบื้องต้นทางด้านนายณัฐพงษ์ เนียมสม นายกเทศมนตรีตำบลนาตาล่วง และเจ้าหน้าที่ ผู้นำท้องที่ รุดเดินทางตรวจสอบความเสียหาย เตรียมให้การช่วยเหลือซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน
ขณะที่ นางสาวรุ่งลาวัลย์ ภาษี อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53/6 ม.4 บ้านหนองบัว ต.นาตาล่วง อ.เมือง จ.ตรัง เล่าว่า ตนอยู่ที่บ้านญาติกำลังจะไปซื้อของ จู่ๆก็มีลมและฝนกระหน่ำลงมาพร้อมฟ้าผ่าลงมา ตนจึงช่วยญาติขนของ เมื่อกลับมายังบ้านตัวเองปรากฏว่าบ้านพังหมดแล้ว สภาพลมฝนตอนนั้นหมุนอย่างแรง ตนเองก็ทำอะไรไม่ถูก งภายในบ้านก็มีลูกๆอยู่ด้วย รีบวิ่งมาดูลูก รู้สึกตกใจมาก ตอนนี้มีหลังคาที่พังเสียหาย ก็รีบขนของเอาไปไว้นอกบ้านก่อน ยังไม่รู้ว่ามีอะไรเสียหายอีกบ้าง ตอนนี้ก็มีทางเทศบาลตำบลนาตาล่วงเข้ามาช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว
ด้าน นายเพรียง เมืองไทย หรือโกเม่น อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53/7 ม.4 บ้านหนองบัว ต.นาตาล่วง อ.เมือง จ.ตรัง เล่าด้วยอาการตื่นตระหนกว่า ก่อนเกิดเหตุตนเห็นว่ามีฝนกำลังจะตกฟ้ามืด พร้อมมีพายุลงมาในสระน้ำหมู่บ้านขนาดใหญ่ก่อนจะหมุนตัวเป็นเกลียวกลับขึ้นมาบนฝั่งพัดเข้าบ้าน ตอนนั้นฝนตกไม่หนักแต่ลมแรงมาก มีเสียงดังโครมครามตนอยู่แต่ในบ้านไม่กล้าออกมาข้างนอก ตอนนั้นทำได้แค่บนบานสิ่งศักดิ์สิทธ์ให้คุ้มครองเพื่อให้ปลอดภัย ใช้เวลาประมาณ 15 นาที จึงจะสงบลง ตอนนั้นตนใจหวิวๆ ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เกิดมา 59 ปี เพิ่งเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ความเสียหายตอนนี้ก็เป็นกระเบื้องที่พัง พื้นที่ดังกล่าวไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาก่อน ตอนเกิดเหตุมีเด็กเล็กวิ่งหลบเข้าไปอยู่ในบ้านด้วย
ด้านนายณัฐพงษ์ กล่าวด้วยว่า ความเดือดร้อนของชาวบ้านในพื้นที่ ตน ได้สั่งการหัวหน้าศูนย์บรรเทาป้องกัน เทศบาลตำบลนาตาล่วง ไปสำรวจความเสียหายและให้ชาวบ้านซื้อวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ และเอาบิลมาเบิก เพราะหากทางเทศบาลจัดซื้อให้อาจจะไม่เข้ากับตัวบ้าน โครงกระเบื้องไม่ตรงตามสเปค ส่วนบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายหนักพายุซัดหลังคาปลิวออกไปทั้งหลังเราได้ช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ส่วนการเยียวยาในภายหลังก็ได้แจ้งสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ตรัง ต่อไปวันนี้ความเสียหายเกิดขึ้น 14 หลังคาเรือน แต่ก่อนหน้านี้ประมาณ 20 กว่าหลังคาเรือน รวมความเสียหายในรอบสัปดาห์นี้ ผลพวงจากพายุฝนทำให้หลังคาพังเสียหายแล้วกว่า 30 หลังคาเรือน ส่วนพืชผลทางการเกษตรได้รับผลกระทบไม่มาก ที่ผ่านมาทางเทศบาลมีการประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติอยู่ตลอด ศูนย์ภัยพิบัติของเทศบาลก็เปิดอยู่ตลอด ในแง่การบริหารจัดการของท้องถิ่นศูนย์ปฏิบัติการต่างๆ ต้องเปิดตลอด ไม่ว่าศูนย์กู้ภัยทางน้ำ กู้ภัยทางถนน ภัยพิบัติต่างๆ เพราะเป็นนโยบายห้ามปิดศูนย์ภัยพิบัติเนื่องจากพื้นที่ของเราเกิดอุบัติภัยอยู่บ่อย.