ตรัง-หมู่บ้านนำร่องร่วมสืบสานอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น จัดกิจกรรมเอามื้อสามัคคี ลงแขกดำนา ออกปาก ขอแรง พร้อมผลักดันให้มีพื้นที่ “โคก หนอง นา โมเดล” ให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ให้คนรุ่นหลัง สุดคึกคัก! และกิจกรรมชักกะเย่อในนาท่ามกลางโคลนตม เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะสนั่นทั้งงาน
ที่ จ.ตรัง นายไพโรจน์ ศรีละมุล นายอำเภอปะเหลียน เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “โคก หนอง นา โมเดล” กิจกรรมเอามื้อสามัคคี (ลงแขก ออกปาก ขอแรง) ร่วมแรงร่วมใจปลูกต้นไม้ยืนต้น ไม้ผล ผักสวนครัว ปลูกข้าวดำนา และปล่อยพันธุ์ปลา ซึ่งจัดขึ้นที่บ้าน นายบุญเลิศ จิตรหลัง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 บ้านหนองหว้าต.ทุ่งยาว อ.ปะเหลียน จ.ตรัง เจ้าของรางวัลผู้นำต้นแบบ พร้อมด้วยผู้นำชุมชน ประชาชน กลุ่มสตรี จิตอาสา ร่วมกิจกรรมกว่า 300 คน ท่ามกลางบรรยากาศคึกคัก สนุกสนาน
ภายในกิจกรรมมีการแสดงเต้นตามจังหวะเพลง “บาสโลบ” จากกลุ่มแม่บ้านหนองหว้า และนายอำเภอผู้นำท้องที่ร่วมแข่งขันชักเย่อในแปลงนากลางโคลนตมด้วย ก่อนจะมีการร่วมลงแขกดำนา ปลูกต้นไม้ พืช ผักสวนครัว และปล่อยพันธุ์ปลาดุก ปลานิล ลงในบ่อ ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานของผู้ร่วมกิจกรรมด้วยความครึกครื้น ได้สัมผัสวิถีการทำนาของชาวตรังอย่างแท้จริง เป็นการสืบสานประเพณีที่ทำสืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน
ขณะที่ นายไพโรจน์ กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมวันนี้ก็เป็นโครงการที่นำมาประยุกต์จากหลักเศรษฐกิจพอเพียง ทฤษฎีของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 เป็นกิจกรรมที่ต้องการให้คนในหมู่บ้านรู้รักสามัคคีกัน ได้ให้คนในหมู่บ้านมาช่วยเหลือกันโดยไม่คิดค่าแรง ซึ่งเป็นงานจิตอาสา เป็นการเอื้อเฟื้อกันในพื้นที่ เชื่อว่าผลลัพธ์จากวันนี้ถือเป็นต้นแบบได้ ให้คนในพื้นที่ สามารถปรับปรุงพื้นที่ของตัวเองได้ ซึ่งสถานที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่แรกที่จัดขึ้นใน อ.ปะเหลียน เป็นที่ดินส่วนตัวของ นายบุญเลิศ ผู้ใหญ่บ้าน ก็ได้รับรางวัลผู้ใหญ่บ้านดีเด่น ได้เป็นแบบอย่างมาตลอด ก็ขอชื่นชม หลังจากนี้ก็จะนำแบบอย่างของบ้านหนองหว้า ไปขยายผลให้กับหมู่บ้านอื่นๆ ในพื้นที่ของอำเภอ ให้ได้ตำบลละอย่างน้อย 1 ที่ เป็นโครงการต้นแบบ ซึ่งพื้นที่นาในอำเภอปะเหลียนนั้นก็มีไม่มากนัก
ด้าน นายบุญเลิศ กล่าวว่า แรงบันดานใจครั้งนี้ตนคิดว่า อย่างน้อยๆได้เป็นตัวอย่างให้คนคนในชุมชน ซึ่งเด็กสมัยนี้อาจจะไม่รู้จักคำว่าหนองหรือนา จึงอยากให้คนในชุมชน ตำบล ได้นำไปเป็นแบบอย่างให้กับคนรุ่นหลัง ก็อยากให้บูรณาการให้เด็กนักเรียนมาศึกษาเรื่องนี้ด้วย ตั้งใจเป็นศูนย์เรียนรู้ในอนาคต กิจกรรมหลักที่อยากให้เป็นแบบอย่างคือ นา ซึ่งทำต่อเนื่องแล้ว เมื่อมีการดำนาแล้ว หลังจากนี้ก็จะมีการเก็บเกี่ยว ให้เป็นคันนาทองคำ หลังจากนี้ก็จะพัฒนาที่ดิน ตรวจสอบคุณภาพดิน หาพืชที่เหมาะสมในพื้นที่ ก็จะทำให้เป็น 1 ตำบล 1 อำเภอก่อน ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าในอนาคตจะทำให้เป็นบ้านต้นไม้ให้ได้ ด้านแนวคิดนั้นก็ต้องคิดว่าจะใช้น้ำอย่างไรให้เกิดประโยชน์ ปลูกต้นไม้ให้ร่มรื่น ซึ่งหากมีต้นไม้ต่างๆ ก็จะทำให้ลดมลพิษด้วย
นางนงเยาว์ กล่าวว่า ในส่วนของทางพัฒนาชุมชน ก็มีโครงการที่จะส่งเสริมสนับสนุนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในรูปแบบโครงการ “โคก หนอง นา โมเดล” ส่วนงบประมาณนั้นก็จะเป็นงบประมาณตามยุทธศาสตร์กรมฯ ปี 2563 สนับสนุนให้ทุกอำเภอทั่วประเทศ ได้มีต้นแบบของ”โคก หนอง นา โมเดล” เป็นศูนย์เรียนรู้ให้กับทุกอำเภอ ซึ่งในอำเภอปะเหลียนได้คัดเลือกบุคคลที่จะสามารถเป็นต้นแบบได้ คือ ผู้ใหญ่บุญเลิศ เข้าไปรับความรู้ ฟังนโยบายแนวทางการดำเนินงานจากศูนย์พัฒนาชุมชนเขตยะลา เมื่อ 3 เดือนก่อนกลับมาก้ได้รับเงินสนับสนุนตามมา เป็นเงิน 21,500 ซึ่งการปรับปรุงพื้นที่ตรงนี้ก็ใช้งบประมาณอีกหลายส่วน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากภาคีเครือข่ายในหลายๆด้าน อีกด้วย วันนี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง สำหรับคำว่า “โคก หนอง นา โมเดล” ก็เป็นการจัดสรรพื้นที่เพื่อใช้ประโยชน์ ที่เป็นโคกก็จะเป็นส่วนที่ปลูกไม้ยืนต้น พืชผลไม้ ไม้ยืนต้นที่สามารถหมุนเวียนใช้ได้ตลอดทั้งปี หนองเป็นการเลี้ยงปลาในสระ นา เป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งที่ปลูกข้าว ในสัดส่วน .