ตรัง-พบรถยนต์กรมคุมประพฤติสภาพพังยับ จอดทิ้งกลางถนน ยังไม่ทราบชะตากรรมคนขับ ตร.พบข้อสงสัยใช้สก็อตเทปปิดทับป้ายทะเบียนรถหน้าและหลัง และยังพบเครื่องกระสุนปืนตกอยู่เกลื่อนอยู่บนพื้นถนน เบื้องต้นทราบว่าเป็นรถที่ถูกชาว จ.กระบี่ ประมูลมาจากกรมคุมประพฤติ แต่ยังไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์ถือครอง ส่วนสาเหตุยังไม่ชี้ชัดคาดว่าขับหนีคู่อริ ขณะที่คนขับและคนในรถขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม
เหตุการณ์นี้ได้รับการเปิดเผย เมื่อเวลา 08.40 น. วันที่ 3 ก.ย.63 พ.ต.ต.เมธี ภิญโญประการ สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองตรัง รับแจ้งเหตุพบรถยนต์กระบะต้องสงสัยถูกจอดทิ้งไว้บริเวณเกาะกลางถนน บนถนนสาย ตง.3026 เส้นทางที่จะมุ่งหน้าไปยังเรือนจำจังหวัดตรัง และใกล้กับศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดตรัง หมู่ 12 ต.โคกหล่อ หลังจากรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมด้วย พ.ต.ท.อนุชัย สวยงาม รอง ผกก.(สอบสวน) กำลังเจ้าหน้าที่ ชุดสืบสวน ก่อนจะประสานไปยังเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.ตรัง ร่วมตรวจสอบเก็บหลักฐาน
ในที่เกิดเหตุ บนเกาะกลางถนนพบรถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อ เชฟโรเลต รุ่นโคโลราโด 2.5 คอมมอนเรล สีบรอนด์ทอง ทะเบียน สล 4097 กรุงเทพมหานคร แผ่นป้ายทะเบียนรถด้านหลังถูกปิดบังไว้ด้วยสก็อตเทปสีแดง จอดอยู่ในสภาพล้อหน้าทั้งสองล้ออยู่บนเกาะกลาง ล้อหลังอยู่บนพื้นถนน ตัวรถพังยับเยิน กระจกหน้ารถแตกละเอียด และยังพบเศษซากอะไหล่ตัวรถกระจัดกระจายอยู่เกลื่อนพื้นถนน
ตรวจสอบบริเวณประตูรถด้านซ้าย ใกล้กับมือจับประตูรถ พบคราบเลือดติดอยู่ ห่างออกไปอีกประมาณ 3 เมตร บนพื้นถนนพบเครื่องกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม.สภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งาน จำนวน 2 นัด และปลอกกระสุนปืนขนาดเดียวกันจำนวน 1 ปลอก พร้อมทั้งรางพลาสติกใส่เครื่องกระสุนปืนตกอยู่อีก 1 ชิ้น เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ขณะเดียวกันพบว่าบริเวณเกาะกลางถนนมีร่องรอยครูดเป็นระยะทางยาว ตัวรถไม่พบร่องรอยของรูกระสุน หรือร่องรอยการตู้สู้ภายในรถแต่อย่างใด จากการตรวจสอบประวัติในฐานระบบพบว่ารถยนต์คันดังกล่าวผู้ถือครองกรรมสิทธิ์รถ คือ กรมคุมประพฤติ
จากการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า รถคันดังกล่าวถูกจอดทิ้งตั้งไว้ตั้งแต่เวลา 03.00 น.คืนวันเกิดเหตุดังกล่าว กระทั่งช่วงเช้ามีพลเมืองดีได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ ตร.เข้ามาตรวจสอบ ขณะเดียวกันหลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถประมูลของกรมคุมประพฤติ ที่ถูกประมูลไปให้กับชาวบ้านรายหนึ่งในพื้นที่ จ.กระบี่ แต่ยังไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์ถือครอง ซึ่งได้มีการประสานไปแล้ว เบื้องต้นอ้างว่าได้มีเพื่อนยืมขับไปเที่ยวกลางคืนที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งใน จ.ตรัง ส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาดว่าขับหนีการไล่ของคู่อริก่อนรถเสียหลักพุ่งขึ้นเกาะกลางถนน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานเชิญตัวคนขับและพวกมาสอบสวนเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง และแกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อสืบหาเบาะแสจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ขณะที่ นายดำ (นามสมมุติ) อายุ 76 ปี เล่าว่า ช่วงเวลา 7 โมงกว่าเห็นชาวบ้านมายืนมุงดูรถอยู่ที่เกิดเหตุเยอะหลายคนแล้ว บอกว่ามีรถกระบะจอดอยู่ที่เกาะกลางถนน ตนก็คิดว่าไม่ได้มีอะไรมาก ช่วงกลางคืนก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรเพราะบ้านตนอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุมาก ที่ผ่านมาตรงนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อยมาก ตนคือคนแรกที่ประสบอุบัติเหตุ ครั้งที่ 2 ก็รถผู้คุม และล่าสุดครั้งนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนก็ไม่แน่ใจว่าเคยเห็นรถคันนี้หรือเปล่าเพราะรถถูกปิดป้ายทะเบียนหมดเลย
ด้าน นายหนึ่ง (นามสมมุติ) เล่าด้วยว่า รถคันดังกล่าวถูกปิดป้ายด้วยสติ๊กเกอร์หมด ไม่มีใครเห็น กลางคืนเวลาประมาณ 01.00 น. -02-00 น. ที่ผ่านมาตนก็ได้ยินเสียงเหมือนรถไล่กัน ตนก็สงสัยว่าใครทำอะไร เสียงดังมาก ซึ่งบ้านตนกับที่เกิดเหตุก็ห่างประมาณ 2 กม. แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงปืน เท่าที่ฟังก็เป็นรถยนต์ประมาณ 3 คัน.