ตรังอ่วมต่อเนื่อง! มวลน้ำซัดพนังกั้นแม่น้ำตรังแตกซ้ำรอยปี 60 น้ำไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนฉับพลัน หอบข้าวของหนีไม่ทัน 100 กว่าครัวเรือนได้รับผลกระทบหนัก อพยพนอนริมถนนหวาดผวาหวั่นน้ำเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ถนนบางเส้นทางต้องปิดสัญจรชั่วคราว ล่าสุด จ.ตรัง น้ำท่วมขยายวงกว้างแล้วกว่า 7 อำเภอ
เมื่อเวลา 13.40 น. วันนี้ 13 ต.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุการณ์พนังกั้นน้ำแม่น้ำตรัง บริเวณปากคลองแม่น้ำตรัง พื้นที่ หมู่ 1 ต.หนองตรุด อ.เมืองตรัง เป็นจุดที่กำลังก่อสร้างประตูน้ำ โครงการคลองลัดน้ำของชลประทาน กระแสน้ำภายในแม่น้ำตรังที่รุนแรงได้ซัดพนังดังกล่าวซึ่งเป็นคันดินจนพังทลายลงระยะทางกว่า 50 เมตร และกระแสน้ำยังคงซัดพนังพังต่อเนื่อง จนทำให้มวลน้ำภายในแม่น้ำตรัง ซึ่งเป็นที่รองรับมวลน้ำจาก อ.ทุ่งสง จ.ตรัง
ไหลบ่าทะลักเข้าภายในแก้มลิง หรือคลองผันน้ำ ของโครงการดังกล่าว ซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้างมาเป็นระยะเวลานาน แต่ยังไม่แล้วเสร็จ และทำให้มวลน้ำจำนวนมากดังกล่าวไหลบ่าเข้าในพื้นที่ลุ่มต่ำ หมู่ 1 หมู่ 3 หมู่ 4 หมู่ 7 ต.หนองตรุด และ หมู่ 4 ต.บางรัก รวมทั้งพื้นที่ใกล้เคียงโดยทันที โดยสร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่รับน้ำเป็นอย่างมาก และคาดว่าหลังจากนี้มวลน้ำจำนวนมากจากปัญหาพนังกั้นแม่น้ำตรังจะสร้างความเดือดร้อนไหลบ่าเข้าสู่บ้านเรือนประชาชนอีกเกือบ 100 กว่าหลังคาเรือน
ชาวบ้านในพื้นที่ ต.บางรัก อ.เมืองตรัง ซึ่งเป็นจุดที่รับน้ำจากพนังกั้นน้ำพัง ต่างเร่งอพยบขนย้ายข้าวของกันอย่างจ้าละหวั่น เนื่องจากมวลน้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนอย่างรวดเร็ว และเพิ่มระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น บางรายยังคงอาศัยอยู่ภายในบ้าน โดยที่ไม่คาดคิดว่าพนังกั้นน้ำจะพังถล่มลงมา ต่างนำของที่เปียกน้ำขึ้นมาพักพิงชั่วคราวบนถนนสายตรัง-สิเกา ท่ามกลางฝนที่ตกหนักต่อเนื่องตลอดเวลา
ทั้งนี้จากเหตุการณ์พนังกั้นน้ำพังถล่มดังกล่าว ทำให้มวลน้ำที่ไหลเชี่ยวกราด ซัดสะพานเหล็กชั่วคราว ที่ประชาชนใช้สัญจรระหว่าง หนองตรุด-บ้านหลังเขา จนทำให้คันดินที่อยู่ริมสะพานทรุดตัวลงอย่างต่อเนื่อง และมวลน้ำได้ซัดตอม่อสะพานอย่างรุนแรง ทำให้เจ้าหน้าที่ สภ.หนองตรุด เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ได้นำป้ายสั่งห้ามใช้สะพานและปิดเส้นทางดังกล่าวชั่วคราว โดยหวั่นเกรงว่าสะพานดังกล่าวจะชำรุดลง โดยมีเจ้าหน้าที่ รวมทั้งผู้นำท้องถิ่น คอยอำนวยความสะดวกเวลา แต่ประชาชนยังคงได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากจะต้องอ้อมไปใช้อีกเส้นทางหนึ่งในการเข้าออกพื้นที่.
นายวิทยา แก้วท่าแค หรือโป่งจิตอาสา อายุ 39 ปี เจ้าหน้าที่ภัยป้องกันภัยพิบัติ ต.หนองตรุด กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ดังกล่าว เคยเกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกันมาก่อนแล้วเมื่อปี 2560 เกิดเหตุพนังกั้นน้ำซึ่งเป็นคันดินถล่มมาแล้ว ในพื้นที่ หมู่ 2 ต.หนองตรุด อ.เมือง จ.ตรัง พนังกั้นน้ำถูกกระแสน้ำเซาะเสียหายแล้วหลายจุดพนังกั้นน้ำตรงนี้เป็นพื้นที่ ก่อสร้างทำคลองแก้มลิง แต่ทางชลประทานเป็นผู้รับเหมาต่อมาขุด โดยทางผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้าน ได้ห้ามไว้ไม่ให้ขุดเพราะเป็นที่ดินเดิม เกรงว่าจะหักพัง แต่ทางชลประทานยืนยันว่าจะขุดและจะเป็นผู้รับผิดชอบเองหากหักพังลงมา ซึ่งโครงการขุดคลองตอนนี้ก็ยังไม่แล้วเสร็จ ครั้งนี้หักเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ครั้งแรกปริมาณน้ำเอ่อพอดี
นายวิทยา กล่าวต่อไปอีกว่าเมื่อมีการขุดดินเดิมมาถม พนังกั้นน้ำจึงหักลง รวมถึงเป็นช่วงที่มีฝนตกหนักหลังจากที่มีมรสุมเข้ามา จึงได้รับผลกระทบอย่างหนักปริมาณน้ำเพิ่มมาก ชาวบ้านเดือดร้อนหนักมากเป็นถนนสายหลักที่ชาวบ้านสัญจรไปมา น้ำท่วมเข้าบ้านเรือนชาวบ้าน เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมหลายครัวเรือน ตอนนี้ยังดีที่ยังไม่มีน้ำทะเลหนุนมาเพิ่ม ถ้ามีน้ำทะเลหนุนอีกอาจจะทำให้มีน้ำหลากไหลเข้ามาในหมู่บ้านชาวบ้านอีก ตอนนี้ล่าสุดบ้านปลัดอาวุโส อ.เมืองตรัง ก็ท่วมแล้ว น้ำไหลเข้าไปหมด สำหรับ ม.1 ตอนนี้มีบ้านเรือนชาวบ้านประมาณ 117 ครัวเรือน ที่ท่วมอยู่ตอนนี้เป็น 10 กว่าครัวเรือนแล้ว ชาวบ้านย้ายของไม่ทัน ไม่มีใครคิดว่าพนังกั้นน้ำจะพัง และกระแสน้ำจะไหลเร็วขนาดนี้ ถ้าฝนยังตกหนักอีกตนเชื่อว่าจะยังมีความเสียหายเกิดขึ้นเพิ่มอีกแน่นอน
ขณะเดียวกัน มวลน้ำผลจากพายุฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องรวมทั้งน้ำป่าที่ไหลลงมาจากเทือกเขาบรรทัด ได้ไหลเอ่อจากคลองนางน้อย หลากเข้าท่วมในพื้นที่ ต.นาโยงใต้ ต.นาโยงเหนือ และ ต.นาหมื่นศรี หลายหมู่บ้าน ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนแล้วกว่า 100 ครัวเรือน ระดับน้ำสูงถึง 2-3 เมตร ถนนบางเส้นทางได้ปิดการสัญจร และงดให้รถเล็กผ่านเส้นทาง โดยหากมีฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องเช่นนี้คาดว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นและขยายวงกว้าง ในส่วนของ จ.ตรัง ได้มีรายงานน้ำท่วมแล้วกว่า 7 อำเภอ ข่าวคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป.
