ผู้ว่าฯตรัง คนใหม่ ฟิตจัด! เรียกประชุมด่วนบนจวนฯ กลางดึก หลังพนังกั้นแม่น้ำตรังพังถล่ม น้ำไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนไม่ทันตั้งตัว เร่งแก้ปัญหาผันน้ำเพื่อระบายออกสู่ทะเล ขณะที่ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนทางท้องถิ่นได้ช่วยเหลืออยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว
เมื่อเวลา 22.00 น. คึดคืนวันที่ 13 ต.ค.63 ที่จวนฯผู้ว่าฯ นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผวจ.ตรัง ได้เรียกประชุมด่วนหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการบริหารแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของศูนย์บรรเทาสาธารณภัยระดับอำเภอและจังหวัด โดยมี นายรุทธ์ อินนุพัฒน์ ผอ.สำนักงานก่อสร้างชลประทาน ขนาดใหญ่ที่ 11 ปภ.จังหวัดตรัง นายอำเภอ กำนันผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชนในพื้นที่ประสบภัยพิบัติ เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาหลังเกิดน้ำท่วมในหลากหลายพื้นที่ รวมทั้งพนังกั้นแม่น้ำตรังพังทลายลงมาเพราะมวลกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกราด โดยใช้เวลาประชุมนานร่วม 2 ชม.
นายขจรศักดิ์ กล่าวว่า จากกรณีคันดิน หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าพนังกั้นน้ำ หมู่ที่ 1 ต.หนองตรุด เป็นสถานที่ก่อสร้างของกรมชลประทานระบบระบายน้ำแม่น้ำตรัง ของสำนักงานก่อสร้างของกรมชลประทานขนาดใหญ่ที่ 11 เกิดพังเข้ามา ซึ่งจริง ๆ แล้วตัวโครงการนี้ตรงที่คันดินพังจะเป็นปากทางของโครงการอยู่แล้ว ซึ้งตอนนี้โครงการสร้างยังไม่เสร็จ เหตุที่เกิดขึ้นเนื่องจากว่า เราทราบดีว่าปริมาณฝนตกที่ จ.ตรัง เกือบทุกอำเภอ ในแต่ละอำเภอตกลงประมาณเฉลี่ย 60-80 ลบ.ม.ต่อวัน ตอนนี้สถานการณ์น้ำท่วมได้รับแจ้งจากอำเภอและ ปภ.จังหวัด มีสถานการณ์น้ำท่วมประมาณ 6 อำเภอ ที่มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน
ขณะที่ นายรุทร์ อินนุพัฒน์ ผอ.สนง.ก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 11 กล่าวว่า สืบเนื่องจากผลที่ฝนตกต่อเนื่องหลายวันส่งผลทำให้น้ำในแม่น้ำตรังยกระดับสูงขึ้น ซึ่งบริเวณบ้านกลางอำเภอเมือง เมื่อตอน 12.00 น.วันนี้ระดับน้ำในแม่น้ำตรังอยู่ประมาณ +8.1 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ในขณะที่คันดินตรงสถานีวัดน้ำคันดินอยู่ที่ระดับ+9 เพราะฉะนั้นระดับน้ำเหลืออีกไม่ถึงเมตรที่จะไหลเอ่อล้นตัวคันกันน้ำแม่น้ำตรัง ในขณะเดียวกันน้ำที่ไหลจากตัวแม่น้ำตรังจะไหลมาตามเส้นทางที่ระบุไว้ ตอนนี้ทางกรมชลประทานมีโครงการกำลังดำเนินงานก่อสร้างระบบระบายน้ำแม่น้ำตรังอยู่
เบื้องต้นที่ประชุมได้รายงานความช่วยเหลือเบื้องชาวบ้านที่เดือดร้อน จะเร่งหาทางระบายน้ำออกให้เร็วขึ้นโดยติดตั้งเครื่องระบายน้ำและผลักดันน้ำออกให้เร็วขึ้น ในพื้นที่ ม.2 ต.หนองตรุด โดยทางกรมชลประทานและกำนันผู้ใหญ่บ้าน ติดตั้งเครื่องสูบน้ำมีการทำคันดินป้องเพื่อจะบีบบังคับน้ำที่เอ่อล้นให้ลงลำคลองลัด ส่วนชาวบ้านที่เดือดร้อนในพื้นที่ ต.บางรัก ทางชลประทานจะไปดูบ้านเรือนในที่ลุ่มบล็อกตรงคันกั้นน้ำหาเครื่องสูบน้ำออกเพื่อให้น้ำลดลงอย่างรวดเร็วเพื่อจะลดผลกระทบที่เกิดกับพี่น้องประชาชน และพรุ่งนี้รองอธิบดีกรมชลประทานจะลงมาดูพื้นที่ด้วยตนเองที่จะลงไปสำรวจพื้นที่ ต.บางรัก ซึ่งเป็นพื้นที่บริเวณปลายน้ำที่ประชาชนได้รับผลกระทบ ขณะนี้ได้รับรายงานว่าทางกำนันผู้ใหญ่บ้าน และนายก อบต.ได้อพยพสิ่งของและชาวบ้านไปอยู่ในที่ปลอดภัยตามที่เราได้จัดไว้ และได้ประสานสั่งการกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยลาดตระเวนจัดชุดลาดตระเวน ร่วมกับฝ่ายปกครองในการที่จะดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่มีประมาณ 30 ครัวเรือนที่ได้รับความเดือดร้อนหนักในขณะนี้.