“วราวุธ” ลุยต่อ! “ฟื้นทะเล-ปกป้องพะยูน” จับมือคนตรังล้างบางขยะพลาสติก ปลุกคนไทยอย่าลืมบทเรียน “น้องมาเรียม” ลั่นปัญหาขยะทะเลยังไม่จบ นำหน่วยงานในสังกัดลงพื้นที่ตรัง MOU ร่วมมือหน่วยงานภาครัฐ เอกชน อปท.และภาคประชาชนในพื้นที่ จัดการขยะต้นทาง พร้อมอนุรักษ์พะยูนและแหล่งหญ้าทะเล
ที่บริเวณหาดยาว บ้านเจ้าไหม ม.6 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง วันที่ 26 พ.ย.63 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนทะเลตรังสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน พร้อมทั้งร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือ “ขับเคลื่อนตรังสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน” ว่าด้วยการแก้ไขปัญหาขยะทะเลและอนุรักษ์พะยูน” ระหว่าง กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมควบคุมมลพิษ จังหวัดตรัง อบจ.ตรัง อบต.เกาะลิบง `สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง มูลนิธิอันดามัน และชมรมชาวประมงพื้นบ้านจังหวัดตรัง เพื่อแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันของทุกภาคส่วนที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหาขยะทะเลและอนุรักษ์พะยูน ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง ชาวบ้านแห่ถ่ายภาพเซลฟี่ ก่อนจะมีการปล่อยปูสู่ทะล พร้อมปล่อยขบวนเรือชาวประมงเพื่อไปเก็บขยะในทะเล โดยมี นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผวจ.ตรัง ร่วมต้อนรับ
นายวราวุธ กล่าวว่า ปัญหาขยะเป็นปัญหาสำคัญที่กระทบต่อชีวิตของประชาชนและระบบนิเวศ โดยเฉพาะในพื้นที่ชายฝั่งซึ่งมีขยะจำนวนมากถูกพัดพาลงไปสู่ทะเลจนเกิดผลกระทบและความสูญเสียตามมาอย่างมากมาย เช่น กรณี “น้องมาเรียม” ลูกพะยูนขวัญใจคนไทยที่ต้องมาเสียชีวิตจากการกินเศษขยะพลาสติกในทะเล ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นบทเรียนสำคัญที่คนไทยจะต้องตื่นรู้และให้ความสนใจกับการจัดการขยะให้มากยิ่งขึ้น และที่ผ่านมาแม้จะมีสัญญาณดีหลายอย่างเกี่ยวกับการจัดการปัญหาขยะในประเทศไทย เช่น ผลจากมาตรการงดใช้ถุงพลาสติกในห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาเก็ต และร้านสะดวกซื้อ ที่ทำให้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.63 จนถึงวันที่ 30 ก.ย.63 สามารถลดปริมาณการใช้ถุงหูหิ้วพลาสติกได้ถึง 11,958 ล้านใบ หรือคิดเป็น 108,220 ตัน และเมื่อรวมกับการดำเนินโครงการอื่น ๆ ก็สามารถลดอันดับของประเทศไทยจากประเทศที่มีขยะสูงสุดเป็นอันดับ 6 ของโลก ให้มาอยู่ที่อันดับ 10 แต่ก็ยังต้องถือเป็นเพียงก้าวแรกของการทำงานเท่านั้น เพราะโดยข้อเท็จจริงแล้วปัญหาจากขยะและขยะทะเลยังไม่จบ วันนี้เรายังคงได้ยินข่าวการสูญเสียสัตว์จากการกินขยะพลาสติกเข้าไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นทุกฝ่ายจึงต้องร่วมมือกันสู้ต่อไป
นายวราวุธ กล่าวต่อไปว่า ความร่วมมือครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะจากประชาชนในจังหวัดตรัง โดยมีกลไกการทำงานที่สำคัญ คือ คณะทำงานขับเคลื่อนตรังยั่งยืนฯ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดตรังมาเป็นประธานด้วยตัวเอง และมีตัวแทนจากภาคีความร่วมมือต่างๆ เข้าร่วมเป็นคณะทำงาน เพื่อแก้ไขปัญหาขยะโดยเฉพาะในพื้นที่ชายฝั่ง 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.สิเกา อ.กันตัง อ.ปะเหลียน อ.หาดสำราญ และ อ.ย่านตาขาว ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเกิดการอนุรักษ์พะยูนและแหล่งหญ้าทะเลให้เกิดความยั่งยืนต่อไป
“ผมเชื่อมั่นว่าความร่วมมือที่เกิดขึ้นจะเป็นอีกจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีในอนาคต เพราะหากเราไม่ร่วมมือกันวันนี้ก็ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะต้องมีเพื่อนของน้องมาเรียม หรือสัตว์อื่นๆ ที่ต้องตายจากไปจากปัญหาขยะ โดยหลังจากนี้ผู้เกี่ยวข้องจะต้องไปคิดกันต่อว่าจะขยายผลความร่วมมือในลักษณะนี้ไปยังพื้นที่อื่นๆ ต่อไปได้อย่างไร และที่สำคัญอยากขอความร่วมมือจากคนไทยทุกคนต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองเพื่อลดขยะที่ไม่จำเป็นและขยะพลาสติกลงให้มากที่สุด เช่น การนำหลัก 3R Reduce, Reuse, Recycle มาใช้ในชีวิตประจำวัน แม้การลดใช้พลาสติกอาจทำให้ชีวิตเราไม่สะดวกในระยะแรก แต่มันคืนราคาที่คุ้มค่าที่เราควรจ่ายเพื่อรักษาโลกใบนี้ไว้ ต้องไม่ลืมว่าต้นตอขยะ คือ มนุษย์ ดังนั้นจึงอยู่ที่ตัวเราว่าจะยอมปล่อยให้พลาสติกเป็นปัญหาที่จะทำให้สภาพแวดล้อมโลกเลวร้ายลงต่อไปหรือไม่ ซึ่งวิธีที่สำคัญที่สุดคือการไม่ทิ้งขยะลงทะเลและต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่และทุกภาคส่วนในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน” นายวราวุธ กล่าว.