Thailand Web Stat Truehits.net

สรุปสาเหตุการเสียชีวิตพะยูนแม่ลูกอ่อนตายทั้งกลม สุดเศร้า ลูกโตเต็มวัยช่องคลอดเริ่มขยายใกล้คลอด

สรุปสาเหตุการเสียชีวิตพะยูนแม่ลูกอ่อนตายทั้งกลม สุดเศร้า ลูกโตเต็มวัยช่องคลอดเริ่มขยายใกล้คลอดแล้ว คาดว่าเกิดจากการถูกของมีคมแทงทะลุจนถึงอวัยวะภายในร่างกาย ส่งผลให้เสียเลือดมากและส่งผลกระทบต่อลูกสัตว์ภายในท้อง

วันที่ 17 ธ.ค.63 เวลา 16.15 น. ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนล่าง (ศวอล.) โดย นายสันติ นิลวัตน์ ผอ.ศูนย์ฯ ได้รับรายงานจาก นายณรงค์ คงเอียด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง หลังรับแจ้งจาก นายนราวิชญ์ ชูเสียงแจ้ว เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม และนายอำนาจ หยังหลัง หัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ จม.3 (เกาะกระดาน) ว่าพบซากพะยูนลอยกลางทะเลบริเวณใกล้กับระหว่างเกาะหวนละเกาะกระดาน หมู่ 2 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง โดยทางอุทยานฯ ได้ขนย้ายซากพะยูนตัวดังกล่าวไปยังที่ทำการอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม และแจ้งประสาน ศวอล. เพื่อทำการผ่าชันสูตรซาก และดำเนินการแจ้งความกรณีพบพะยูนเสียชีวิตดังกล่าวไว้ที่สถานีตำรวจ สภ.กันตัง

ต่อมาเจ้าหน้าที่ ศวอล. ร่วมกับสัตวแพทย์หญิงปิยฉัตร บัวศรี สัตว์แพทย์ประจำสถาบันทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีชัยวิทยาเขตตรัง และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เข้าตรวจสอบเบื้องต้นและผ่าซากชันสูตร พบว่าเป็นซากพะยูน ( Dugong dugon ) ความยาวประมาณ 257 ซม. น้ำหนักประมาณ 260 – 270 กก. เพศเมีย ขนาดโตเต็มวัยเสียชีวิตแล้ว สภาพซากสด ลักษณะภายนอก มีรอยเขี้ยวพะยูนบริเวณลำตัวซึ่งเกิดจากพฤติกรรมภายในฝูง มีเพรียงเกาะบริเวณหลังเล็กน้อย พบบาดแผลรอยบาดจากของมีคมบริเวณด้านหลังส่วนหาง ความยาวประมาณ 15 ซม. และพบลักษณะแผลจากการถูกของมีคมและวัตถุแข็งกระแทกบริเวณส่วนท้ายของลำตัวด้านขวา ทำให้พบรอยช้ำบริเวณรอบบาดแผล ผิวหนังลอกหลุดบริเวณกว้าง และพบกล้ามเนื้อมีรอยช้ำ เกิดการฉีกขาดอย่างรุนแรง โดยแผลทะลุเข้าไปในชั้นกล้ามเนื้อจนถึงอวัยวะภายใน ความยาวขอบบาดแผลประมาณ 7 ซม. กว้าง 2 ซม. ความลึกจากชั้นผิวหนังถึงอวัยวะภายในประมาณ 15 ซม. ซึ่งบ่งชี้ถึงการได้รับบาดเจ็บจากของมีคมและเป็นวัตถุแข็งกระแทกอย่างรุนแรง

นอกจากนี้ยังพบว่าเขี้ยวของพะยูนข้างซ้ายบางส่วน มีรอยตัดจากของมีคมตัด ซึ่งคาดว่าถูกเลาะออกไปภายหลังจากการเสียชีวิตเนื่องจากไม่พบรอยช้ำของบาดแผลโดยรอบ เมื่อเปิดผ่าอวัยวะภายในพบลูกพะยูน ขนาดความยาว 82 ซม. น้ำหนัก 9.2 กก. เพศเมีย อยู่ภายในช่องท้อง เมื่อพิจารณาร่วมกับลักษณะของอวัยวะเพศบวม ปากช่องคลอดเริ่มเปิด ตัวลูกพะยูนเคลื่อนตัวลงมาใกล้กับปากช่องคลอด และหันหัวออกมาทางด้านท้าย และพบว่าแม่พะยูนมีการหลั่งน้ำนมออกมาแล้ว บ่งบอกว่าแม่พะยูนอยู่ในช่วงระยะใกล้คลอด ซึ่งมักมีพฤติกรรมว่ายเข้าสู่ที่ตื้นจึงมีความเสี่ยงที่จะได้รับภัยคุกคามและประกอบกับช่วงท้องแก่แม่พะยูนจะอ่อนแอกว่าภาวะปกติส่งผลต่อการเสียชีวิตได้ง่าย ส่วนของหัวใจและปอดไม่พบรอยโรคที่บ่งบอกความผิดปกติ ส่วนของทางเดินอาหารพบหญ้าทะเลอัดแน่นตลอดทางเดินอาหาร และยังพบหญ้าทะเลอยู่ภายในช่องปาก บ่งบอกถึงพะยูนสามารถกินอาหารได้ตามปกติ

สรุปสาเหตุการเสียชีวิตคาดว่าเกิดจากการถูกของมีคมแทงทะลุจนถึงอวัยวะภายในร่างกาย ส่งผลให้สัตว์มีการเสียเลือดมากและส่งผลกระทบต่อลูกสัตว์ภายในท้อง ร่วมกับพะยูนอยู่ในภาวะใกล้คลอด ทำให้ลูกและแม่พะยูนเสียชีวิตอย่างฉับพลัน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ ศวอล. ได้ทำการเก็บตัวอย่างอวัยวะภายในเพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการและทำการจัดการฝังซากในพื้นที่เรียบร้อยแล้ว

ขณะที่ นายณรงค์ คงเอียด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง กล่าวด้วยว่า กรณีการตายของพะยูนสองแม่ลูกถ้าหากสืบสวนทราบว่าเสียชีวิตจากการล่า ตนจะหาข้อเท็จจริงเพื่อติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ด

ด้าน นายชัยพฤกษ์ วีระวงศ์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง เผยว่า ทะเลตรังมีพะยูนฝูงใหญ่ของประเทศไทย เพราะมีหญ้าทะเลสมบูรณ์ เมื่อช่วงประมาณเดือน ก.ค. เพิ่งได้มีการบินสำรวจประชากรพะยูนในพื้นที่เกาะลิบง ล่าสุด พบว่ามีประชากรเพิ่มจากเดิม เนื่องจากช่วงบินสำรวจเป็นช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ประชากรพะยูนมีการรวมตัวเป็นกลุ่มกันมากขึ้น ดูแล้วมีความอุดมสมบูรณ์ขึ้น ปริมาณพะยูนล่าสุดตอนนี้คาดว่าไม่ต่ำกว่า 250 ตัว และสถิติอัตราการตายในเขตห้ามล่าฯ ลดน้อยลง

สอบถาม นายอะเหร็น พระคง ประธานชมรมภาคีเครือข่ายประมงพื้นบ้าน จ.ตรัง กล่าวว่า การตายของพะยูนเพศเมียพร้อมลูกในท้องตัวดังกล่าว ตนเชื่อว่าไม่ใช่การถูกล่าตามใบสั่ง แต่น่าจะเป็นการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุหรือจากแรงกระแทกด้วยของแข็ง เพราะที่ผ่านมาทางภาคีเครือข่ายประมงพื้นบ้าน ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าฯ ได้ร่วมมือกันทำงานเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดและมีจัดทีมออกลาดตระเวน ส่วนเขี้ยวพะยูนที่หายไปคาดว่าขณะที่ซากลอยอยู่ในทะเลอาจจะมีคนมาพบและตัดเอาไป ที่ผ่านมาคนในพื้นที่และเจ้าหน้าที่ต่างหวงแหนพะยูนเหมือนคนในครอบครัว ไม่มีทางที่จะล่าทำร้ายอย่างแน่นอน

ขณะที่ชาวประมงพื้นบ้าน เผยว่า การตายพะยูนตัวดังกล่าว ดูจากสภาพคาดว่าน่าจะเป็นการจงใจทำให้ตาย เนื่องจากพบบาดแผลคล้ายของมีคมแทงลงไปบริเวณลำตัว เพื่อให้มีน้ำตาพะยูน หรือน้ำตาดุหยงแล้วเก็บน้ำตาไป และตัดเขี้ยวพะยูนตามใบสั่งนิยมนำเอาไปทำเครื่องรางของขลัง โดยเฉพาะหัวแหวนเหมือนกับงาช้าง มีความเชื่อทางไสยศาสตร์ว่า มีคุณสมบัติทางเมตตามหานิยม และกลุ่มคนส่วนหนึ่งนำไปทำยาโป๊ว เชื่อว่ารักษาโรคมะเร็ง ทั้งๆ ที่แพทย์ออกมายืนยันแล้วว่าไม่เป็นความจริง.

Leave a Comment

Your email address will not be published.