นักเรียนโรงเรียนบ้านโคกยาง ต.โคกยาง อ.กันตัง จ.ตรังตั้งแต่ชั้นอนุบาล 1 –ม.3 จำนวน 294 คน ฟื้นการออกกำลังกายด้วยท่ารำมโนราห์ เพื่อสืบสานศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านและช่วยให้ร่างกายแข็งแรงสู้ภัยโควิด
วันนี้ 25 ก.พ.64 เวลา 08.00 น. ที่โรงเรียนบ้านโคกยาง ต.โคกยาง อ.กันตัง จ.ตรัง นักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล 1 –ม.3 จำนวน 294 คน ออกกำลังกายหน้าเสาธงหลังเคารพธงชาติด้วยท่ารำมโนราห์จำนวน 20 ท่า ภายในเวลา 15 นาที เพื่ออนุรักษ์และสืบสานศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวในภาคใต้ ให้เยาวชนรุ่นหลังได้ร่วมสานต่อไม่ให้สูญหายไปในอนาคต ซึ่งการออกกำลังกายด้วยท่ารำมโนราห์ที่อ่อนช้อยของน้อง ๆ นักเรียนโรงเรียนบ้านโคกยาง ได้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2548 โดยมีการส่งเข้าแข่งขันระดับเขตพื้นที่ ได้รับรางวัลเหรียญทองมาอย่างต่อเนื่อง และยังเป็นโรงเรียนเพียงแห่งเดียวในอำเภอกันตัง ที่ออกกำลังกายด้วยท่ารำมโนราห์ นอกจากนี้ ยังได้รับเชิญไปแสดงในงานต่าง ๆ ของทางจังหวัดตลอดทั้งปี และกลายเป็นอัตลักษณ์ของโรงเรียน แต่ต้องมาหยุดรำมโนราห์หน้าเสาธงในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เมื่อปี 2563
หลังมีมาตรการผ่อนคลายตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ หลายจังหวัดในประเทศ นางบุษราภรณ์ ศรีรักษา ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ จึงฟื้นการออกกำลังกายด้วยท่ารำมโนราห์ขึ้นมาใหม่เป็นวันแรก เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงสู้ภัยโควิด-19 แต่ยังให้นักเรียนทุกคนสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งได้ท่ารำที่ออกมาสวยงาม อ่อนช้อย และเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน โดยนักเรียนชั้นอนุบาล 1 มีคุณครูคอยเป็นพี่เลี้ยงในการร่ายรำด้วย
ด้าน ด.ช.ภานุวัฒน์ ณ พัทลุง นักเรียนชั้น ป.3 ซึ่งเป็นผู้นำในการรำมโนราห์กล่าวว่า น้องมีสายเลือดมโนราห์รำรับจ้างที่โรงเรียนและที่บ้านมีรายได้ 200-300 บาทต่อครั้ง โดยเอาเงินไปซื้อชุดมโนราห์ ซึ่งส่วนตัวแล้วชอบเอาไปซื้อกีฬาและชุดมโนราห์และกำไลมโนราห์ คิดว่าเป็นอาชีพได้และตนมีสายเลือดมโนราห์ ซึ่งที่บ้านก็รำกัน 2-3 คน
ด้านนางบุษราภรณ์ ศรีรักษา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโคกยางกล่าวว่า โรงเรียนได้รำมโนราห์หน้าเสาธงมาตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบันโดยมีนักเรียนทั้งหมด 294 คน เพื่อปลูกจิตสำนึกให้นักเรียนอนุรักษ์ศิลปะพื้นบ้านของภาคใต้ นำมาใช้ออกกำลังกาย และนำไปใช้ประกอบอาชีพเสริมได้ และเป็นการออกกำลังกายที่ทำให้ร่างกายแข็งแรง และในอำเภอกันตังมีเพียงแห่งเดียวที่ใช้การรำมโนราห์เพื่อเป็นการออกกำลังกายทุกเช้า.
