Thailand Web Stat Truehits.net

“หมวดคม” หิ้วตัวลูกชายพร้อมพวกหัวร้อนและอาวุธปืน 2 กระบอก เข้ามอบตัวหลังก่อเหตุอุกอาจ ยิงข่มขู่ร้านมาเฟียร์หมูกระทะ

ตรัง “หมวดคม” หิ้วตัวลูกชายพร้อมพวกหัวร้อนและอาวุธปืน 2 กระบอก เข้ามอบตัวหลังก่อเหตุอุกอาจบุกยิงข่มขู่ร้านมาเฟียร์หมูกระทะกลางเมืองตรัง อ้างเหตุโดนด่าบุพการี ย้ำชัด! พ่อไม่ปกป้องลูกผิดถูกว่าไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย

ข่าวคืบหน้า เหตุการณ์ลูกชายตำรวจกร่าง ยกพวกยิงข่มขู่ร้านหมูกระทะเมืองตรัง ตอนกลางวันแสกๆ ล่าสุด พ่อเป็นนายตำรวจยศ ร.ต.ต.พาลูกชายหัวร้อน พร้อมพวกเข้ามอบตัวอ้างสาเหตุมาจากถูก “พ่อครัวสักลาย” ด่าบุพการี แถมโชว์กร่าง ก่อนตัดสินใจขับรถกลับบ้านไกล 20 กม.นำปืนพ่อมาก่อเหตุถล่มร้าน มีเจตนาแค่ข่มขู่ เบื้องต้นแจ้ง 2 ข้อหาเบา ขณะเดียวกันจ่อแจ้งข้อหาเพิ่มหากปรากฏข้อเท็จจริง จากปากคำผู้เสียหาย  

ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองตรัง เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 23 มี.ค.64 ร.ต.ต. พิพัฒชัย ชูบัว หรือหมวดคม ตร.สภ.ปะเหลียน จ.ตรัง ได้นำตัวลูกชายคือ นายศรัณยุ ชูบัว หรือคิงส์ (เสื้อแขนยาวสีดำ) อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 ม.7 ต.นาพละ อ.เมือง จ.ตรัง พร้อมด้วยเพื่อนของลูกชายคือ นายปฐวี วงศ์ยศศรัณย หรือโซล (เสื้อแขนยาวสีเขียว) อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 223 ม.6 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองตรัง จ.ตรัง พร้อมด้วยของกลาง อาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อกล๊อก ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก และอาวุธปืนลูกซองยาว ชนิดบรรจุกระสุน 5 นัด อีกจำนวน 1 กระบอก ซึ่งมีทะเบียนถูกต้องเข้ามอบตัวต่อ ร.ต.อ.มังกร ชัยเพชร รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองตรัง เจ้าของคดี ก่อนจะนำตัวไปเค้นสอบสวนและทำบันทึกการจับกุม

เหตุการณ์นี้สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 10.47 น. วันที่ 21 มี.ค.64 ที่ผ่านมา กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ มีรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์ ตอนเดียว สีขาว กระบะหลังเป็นตู้ทึบ ลักษณะคล้ายรถเซลล์ขายสินค้าของบริษัทแห่งหนึ่ง ระหว่างนั้นชายวัยรุ่น 3 ราย เดินปรี่เข้ามาในร้าน มาเฟียร์หมูกะทะ #บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างทะเลเผาตรัง ตั้งอยู่เลขที่ 13 ม.8 ต.โคกหล่อ คนแรกคือ นายศรัณยุ ชูบัว หรือคิงส์ บุตรชาย ร.ต.ต. พิพัฒชัย หรือหมวดคม  ถืออาวุธปืนยี่ห้อกล๊อก ขนาด 9 มม.เข้ามาในร้านก่อนชักปืนยิงขึ้นฟ้า จำนวน 6 นัดติดต่อกัน ก่อนวิ่งปรี่เข้ามาภายในร้านเล็งกระบอกปืนเข้ามา ระหว่างนั้นพนักงานหญิง ที่ทำความสะอาดอยู่ตกใจกลัวได้วิ่งหนีตายหลบหนีเข้าไปภายในครัวหลังร้าน ขณะที่ชายรูปร่างท้วมเสื้อสีขาวอีกคนเดินตามหลังมาในมือถืออาวุธปืนลูกซองยาวตามมา และยังมีชายสวมเสื้อสีดำตามมาสมทบ รวม 3 ราย ระหว่างที่เข้าไปในร้านกลุ่มเพื่อนลูกตำรวจ ได้พยายามตามหาพนักงานและตะโกนถามว่า “ใครตะวาดเสียงใส่กูๆ” ก่อนพูดคุยเจรจากันอยู่สักพักหนึ่ง หลังกล้องวงจรปิดอยู่สักพัก ก่อนที่จะถือปืนเดินออกมา โดยมี นายสุนทร อมรวิริยะนนท์ หรือจุ้ย อายุ 35 ปี เจ้าของร้านออกมาเจรจาสอบถามเรื่องราวแล้วกลุ่มลุกเพื่อนตำรวจจึงเดินออกไปจากร้าน

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายศรัณยุ หรือคิงส์ ผู้ต้องหาให้การว่า ปกติตนเองพร้อมเพื่อนจะมากินข้าว ซึ่งเป็นร้านอาหารตามสั่ง อยู่ตรงกันข้ามฝั่งถนนกับร้านหมูกระทะ โดยจะนำรถยนต์มาจอดหน้าร้านหมูกระทะเป็นประจำ ก่อนจะเดินข้ามถนนไปยังร้านอาหารตามสั่ง ที่ผ่านมามักจะถูกพ่อครัวของร้านสักลายแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว หรือโชว์กร่างใส่พวกตนเป็นประจำ ทั้งถอดเสื้อโชว์รอยสัก พูดจากระแนะกระแหน และตวาดใส่โดยไม่มีสาเหตุใส่อยู่บ่อยครั้ง แต่ตนเองก็พยายามที่จะไม่คิดอะไร โดยเป็นลักษณะนี้อยู่บ่อยครั้ง จนกระทั่งวันเกิดเหตุ ระหว่างที่ตนเองพร้อมกับพวกรวม 3 คน ได้ขับรถมาจอดหน้าร้านหมูกระทะดังกล่าว เพื่อที่จะข้ามถนนไปกินข้าวร้านตรงกันข้ามตามปกติ ปรากฏว่าเมื่อลงมาจากรถ ชายคนสักลายที่อยู่ภายในร้านดังกล่าว ได้แสดงพฤติกรรมพูดจากระแนะกระแหนใส่ ในลักษณะหาเรื่อง ก่อนที่พวกตนจะหันไปมอง แต่ชายคนดังกล่าวกลับพูดมาว่า “มึงมองหน้าทำ..แม่อะไร” ตนเองจึงเกิดอารมณ์โกธรอย่างมากก่อนจะให้เพื่อนเดินไปรอยังร้านอาหารตามสั่ง ส่วนตนเองได้ขับรถกลับบ้านในพื้นที่ ต.น้ำผุด อ.เมืองตรัง ซึ่งระยะห่างประมาณ 20 กม.โดยได้ไปนำเอาอาวุธปืน ซึ่งเป็นของผู้เป็นพ่อ 2 กระบอก มาก่อเหตุดังกล่าว โดยที่ยื่นให้เพื่อนจำนวน 1 กระบอก และยิงขึ้นฟ้าก่อนจะบุกเข้าไปในร้านแต่ถูกเจ้าของร้านห้ามเอาไว้ ตนเองยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้ายหรือเจตนาเจาะจงฆ่าใคร เพียงแต่ด้วยความที่โกธรแค้น เมื่อถูกด่าบุพการี แถมถูกตะหวาด และถูกพูดกระแนะกระแหนใส่มาหลายครั้ง ทั้งๆที่พวกตนเองไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ด้วยความเป็นลูกผู้ชาย ก็ยอมรับไม่ได้ เพียงแค่อยากจะมาข่มขู่เท่านั้นเอง

ขณะที่ ร.ต.ต. พิพัฒชัย หรือหมวดคมา ได้กล่าว กับผู้สื่อข่าวเพียงสั้นว่า ในระหว่างเกิดเรื่องตนเองอยู่ในระหว่างอบรมนายร้อยตำรวจ 53 และเตรียมที่จะไปรับตำแหน่งและรับประกาศเสร็จสิ้นการอบรมในวันพรุ่งนี้ที่ จ.ยะลา โดยในวันนี้ได้นำตัวลูกชายพร้อมเพื่อนมามอบตัวด้วยตนเอง และยืนยันด้วยความเป็นนายตำรวจ ที่ชีวิตอยู่ในราชการมาเป็นระยะเวลากว่า 30 ปี จะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องของคดีอย่างแน่นอนด้วยความบริสุทธิ์ใจ ลูกชายทำผิดก็จะปล่อยให้เป็นไปตามขบวนการของกฎหมาย

อย่างไรก็ตามในเบื้องต้น ทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้แจ้งข้อกล่าวหา พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และ ยิงปืน ในเมือง หมู่บ้านหรือที่ที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร ก่อนนำตัวนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 รายตามที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด เป็นชายรูปร่างท้วมเสื้อสีขาว อยู่ในระหว่างการหลบหนี จะดำเนินการติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และในวันพรุ่งนี้  24 มี.ค.ทางพนักงานสอบสวน ได้ประสานเชิญตัวผู้เสียหายเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม และหากปรากฏข้อเท็จจริงจากปากคำของผู้เสียหาย จะมีการดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ข่าวคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป. 

Leave a Comment

Your email address will not be published.