ตรัง- ผู้สมัคร ส.ท.ตบเท้ายื่นหนังสือ กกต.ตรัง ทบทวนคำสั่งเลือกตั้งใหม่สมาชิกฯ เขต 1 เทศบาลตำบลทุ่งกระบือ วันที่ 16 พ.ค.นี้ ปมเหตุบัตรเลือกตั้งหาย 1 ใบ จี้ถามมันคุ้มค่างบประมาณหรือ และยังสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดในช่วงสถานการณ์โควิด-19
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงาน กกต.ตรัง นายคารม ชูทวี หรืออดีต ส.ท.ต๊อก ว่าที่สมาชิกสภาเทศบาลตำบลทุ่งกระบือ เขตเลือกตั้งที่ 1 หน่วยเลือกตั้งที่ 3 พร้อมทีมงาน เดินทางไปพบกับนางสาวอรพิน อาขีวะสุข ผอ.กกต.ตรัง และนายสุวิชาญ ประชาชาติ รอง ผอ.กกต.ตรัง หลังจากทางคณะกรรมการการเลือกตั้งได้มีคำสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ หลังมีการประกาศผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการไปก่อนหน้าแล้ว เหตุผลเพราะเขตเลือกตั้งที่ 1 หน่วยเลือกตั้งที่ 3 มีจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ตรงกับจำนวนบัตรเลือกตั้งที่ใช้ออกเสียงลงคะแนน พบว่าบัตรเลือกตั้งหายไป จำนวน 1 ใบ
นายคารม หรืออดีต ส.ท.ต๊อก เผยว่า วันนี้ตนรู้สึกว่าไม่มีความเป็นธรรมกับพวกตนและเพื่อนผู้สมัครที่ได้รับเลือกตั้งจากเสียงศรัทธาของพี่น้องประชาชน จึงตัดสินใจเดินทางมายื่นหนังสือคัดค้านขอให้พิจารณาทบทวนไม่ให้มีการเลือกตั้งใหม่ ด้วยเหตุเพราะ 1 คะแนนเสียงไม่ได้มีผลต่อผลคะแนนที่ประกาศออกมาแล้วก่อนหน้านี้ หากมีการเลือกตั้งใหม่เกรงว่าจะส่งผลกระทบตามมา คือ 1.จะเกิดผลกระทบความไม่โปร่งใสในการเลือกตั้ง 2.จะส่งผลต่อคะแนนของสมาชิกทีได้รับการเลือกตั้ง 3.อาจส่งผลต่อความขัดแย้งระดับชุมชนและตำบล 4.เป็นการเสียงบประมาณทางราชการโดยใช่เหตุ และ 5.เหตุผลสำคัญ คือ ข่วงนี้มีสถานการณ์โควิด-19 ระบาดเกรงว่าจะแพร่เชื้อไปยังชุมชน จึงอยากให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง โปรดใช้ดุลพินิจประเมินจากสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ พิจารณาทบทวนการเลือกตั้งสมาชิกสภาฯ เทศบาลตำบลทุ่งกระบือ เขตเลือกตั้งที่ 1 หน่วยเลือกตั้งที่ 3 ณ โรงอาหารโรงเรียนบ้านนานิน ด้วย
นายคารม กล่าวอีกว่า วั้นนี้พวกเราทั้ง 4 คน ที่ชนะการเลือกตั้งได้เดินทางมาร้องคัดค้านในวันนี้ได้รับเลือกมาถูกต้องตามระเบียบ กกต ทุกอย่าง โดยผลการเลือกตั้งได้ถูกประกาศขึ้นป้ายตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค.2564 ที่ผ่านมา จนกระทั่งตนมาทราบข่าวร้ายเมื่อวันที่ 27 เม.ย.64 ว่าทาง กกต.ตรัง ได้มีการเรียกประชุมให้มารับทราบว่าให้มีการเลือกตั้งใหม่ในบางหน่วยคือ หน่วยที่ 3 เนื่องจากบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาฯ หายไป จำนวน 1 ใบ ตนก็สงสัยว่าทำไมถึงปล่อยให้มีการขึ้นป้ายผลการเลือกตั้งมาถึง 1 เดือน ไม่มีการสอบถามหาสาเหตุแต่อย่างใด และยังไม่ได้ส่งผลคะแนนสมาชิกลำดับอื่นๆ เพราะมันห่างไป 8 คะแนน ตนจึงเดินทางมาเรียกร้องสิทธิเพื่อความถูกต้องที่ต้องเสียผลประโยขน์
“จึงอยากให้ กกต.พิจารณาทบทวนคำสั่งอย่าใช้แต่ข้อกฎหมายแต่อยากให้ใช้เหตุผลความเป็นจริงควบคู่กับหลักการความประณีประนอม ซึ่งประเด็นนี้อาจจะสร้างความแตกแยกให้กับสังคมด้วย เพราะทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งที่ผ่านมาก็สร้างความแตกร้าวให้กับชุมชน รวมถึงสถานการณ์โควิด-ที่กำลังระบาดอยู่ด้วยวันนี้ และให้เล็งเห็นถึงความเสียหายที่กำลังจะตามมา หลังจากมีการเลือกตั้งใหม่ช่วงวันที่ 16 พ.ค.นี้ ตนมองว่ามันกระชั้นชิดจนเกินไป และตนมองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ปกติเพราะมีการวางลำดับผลการเลือกตั้งจาก 4 หน่วยเลือกตั้งวางอยู่แล้วต้องมีการแข่งขันที่รุนแรงกว่าเดิมและอาจจะส่อไปถึงการทุจริตการเลือกตั้งขึ้นมาก็ได้ ที่ผ่านมาตนไม่เคยเจอเหตุการณ์นี้มาก่อน เป็นครั้งประวัติศาสตร์ที่เราต้องมีการเลือกตั้งใหม่ กกต.กลางควรลงพื้นที่ไม่ใช่แค่รับเรื่องแล้วตัดสินใจตามเอกสารเสนอไปเท่านั้น” นายคารม กล่าว