ขนมคอเป็ดเป็นขนมที่ทำจากแป้งข้าวเหนียวผสมกับน้ำตาลมะพร้าว เป็นขนมไทยโบราณที่หากินได้ยากในปัจจุบัน จึงทำให้ผู้ผลิตขนมคอเป็ดไร้คู่แข่งและยังคงขายดิบขายดีใช้แรงงานคนในครอบครัวทำได้ ไม่กระทบจากพิษโควิด-19 แต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 121/1 หมู่ 4 ต.นาข้าวเสีย อ.นาโยง จ.ตรัง ครอบครัวของนายสุมิตร แก้วพิทักษ์ อายุ 46 ปี มีตั้งแต่พ่อแม่และลูกเมียรวม 6 คน ช่วยกันทำขนมคอเป็ด ซึ่งเป็นขนมพื้นบ้านภาคใต้ที่ปัจจุบันหากินได้ยาก เนื่องจากไม่มีคนสืบทอด เพราะทุกขั้นตอนยังใช้แรงงานคน เริ่มตั้งแต่การแช่นึ่งข้าวเหนียวและข้าวจ้าวทิ้งไว้ 1 คืนก่อนนำมานึ่ง แล้วรีดให้เป็นแผ่นเส้นคล้ายเส้นก๋วยเตี๋ยว นำมาตากแดดให้แห้ง ก่อนตัดออกเป็นชิ้นๆ พอดีคำ แล้วนำไปตากแดดอีก 1 วัน เมื่อแห้งกรอบดีแล้วก็นำไปทอดจนสุก คลุกเคล้ากับน้ำตาลโตนด ที่ให้ความหอมหวาน เป็นสูตรเฉพาะ กินคล้าย ๆ กับขนมก้านบัวแต่ชิ้นใหญ่กว่าและอ่อนนุ่มกว่า หอมหวานและกรอบกำลังดี ซึ่งในสมัยโบราณคนเฒ่าคนแก่นิยมทำให้ลูกหลานกินเล่น และนำไปเป็นของฝากในเทศกาลต่างๆ
โดยครอบครัวของนายสุมิตรทำขนมคอเป็ดขายมาตั้งแต่รุ่นคุณแม่ คือเมื่อ 20 กว่าปีที่ผ่านมา จากถุงละ 3 บาทเป็นขายส่งถุงละ 7 บาท มีลูกค้าในจ.ตรังสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีหน้าร้านแต่ขายกันแบบปากต่อปาก โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขนมคอเป็ดไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด และยิ่งประชาชนไม่ออกจากบ้านแต่นิยมสั่งซื้อทางออนไลน์หรือทางโทรศัพท์มากขึ้น ก็ยิ่งทำให้ขนมคอเป็ดขายดีมากขึ้น สร้างรายได้อาทิตย์ละไม่ต่ำกว่า 5,000 บาทเลยทีเดียว และเป็นธุรกิจในครอบครัวทำให้ต้นทุนต่ำ จึงสามารถอยู่ได้อย่างสบาย ๆ อีกทั้งยังเป็นการช่วยสืบทอดการทำขนมไทยโบราณไม่ให้สูญหายไปจากชุมชนด้วย ส่วนใครสนใจอยากจะอุดหนุนสามารถโทรศัพท์ติดต่อได้ที่โทรศัพท์ 095-3905388
ด้านนายสุมิตร แก้วพิทักษ์ เจ้าของบ้านทำขนมคอเป็ด กล่าวว่า ตนทำมาตั้งแต่สมัยรุ่นคุณแม่หรือ 20 กว่าปีมาแล้ว รายได้เฉลี่ยสัปดาห์ละ 4,000-5,000 บาท สามารถเลี้ยงดูได้ทั้งครอบครัว ซึ่งมีทั้งพ่อแม่ลูกและหลานรวม 6 ชีวิต ส่วนลูกค้าอยู่ในพื้นที่จ.ตรัง ส่วนใครสนใจสามารถติดต่อได้ทางหมายเลขโทรศัพท์เท่านั้น.