รพ.สนาม 1 ทุ่งแจ้งวุ่น! เปิดได้เพียง 3 วัน หลังทุ่มงบกว่า 5.7 ล้านเศษกลับเน่าเฟะ! ผู้ป่วย 160 ชีวิต โอด! ผ่านสื่อถึงผู้ว่าฯ ใช้ชีวิตสุดลำบาก น้ำไม่ไหล ไม่มีแม้กระทั่งน้ำล้างขี้-เยี่ยว-อาบน้ำ พร้อมปัญหาตามาอีกเพียบ เริ่มเกิดความเครียด ไร้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาดูแล ขณะที่พยาบาล 5 ชีวิตต้องรับภาระหนักช่วย ต้องดูแลคนไข้ถึง 160 ชีวิต แถมทนรับความกดดัน เร่งประสานงาน-แก้ปัญหาตลอด
เวลา 18.00 น.วันนี้ 3 มิ.ย.64 มีรายงานว่า ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งถูกรักษาตัวอยู่ที่ รพ.สนาม 1 โรงยิมเนเซี่ยม 1,000บริเวณสนามกีฬาเทศบาลนครตรัง 2 (ทุ่งแจ้ง) ถนนตรัง-สิเกา ต.บางรัก อ.เมืองตรัง ได้มีการโพสต์ถึงปัญหาสภาพความเป็นอยู่ที่ลำบาก พบปัญหาเกิดขึ้นจำนวนมาก เช่น น้ำไม่ไหล ไฟดับๆติดๆ มูลนกที่ถ่ายลงมาจากบนอาคาร เสื้อผ้าที่ไม่เพียงพอ อาหารได้รับไม่พร้อมกัน และไม่มีการแยกพุทธ-อิสลาม แมลงวันบินว่อนทั่วอาคาร จนทำให้ชาวเน็ตฯ กระหึ่มต่างแชร์และวิจารณ์ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น
ต่อมาผู้สื่อข่าวประจำ จ.ตรัง ได้พูดคุยผ่านโทรศัพท์มือถือ กับ นายวิชาญ (สงวน-นามสกุล) 1 ใน ผู้ป่วยที่ทำการรักษาอยู่ใน รพ.สนาม 1 (ทุ่งแจ้ง) เปิดใจว่า ตนเองถูกคัดเลือกให้เป็นผู้ใหญ่บ้านใน รพ.สนาม เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวแทนผู้ป่วยที่ต้องประสานงานกับเจ้าหน้าที่พยาบาล โดยเข้าทำการรักษามาตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันแรกที่เปิดสนาม ปัญหาที่พบในช่วงแรกคือมีมูลนกถูกถ่ายลงมาเต็มพื้น แมลงวันบินว่อน แต่ปัญหาดังกล่าวเริ่มมีท่าทีที่ดีขึ้นตามลำดับ
นายวิชาญ เผยต่อไปว่า ที่ผ่านมาปัญหาคือน้ำไหลบ้างไม่ไหลบ้าง น้ำไม่เพียงพอ และทุกครั้งที่ไหลไหลช้ามาก ฉี่เด็กยังแรงกว่า แต่ปัญหาที่พบอยู่ในขณะนี้คือ น้ำไม่ไหลมาทั้งวัน ทำให้วันนี้ตลอดทั้งวันผู้ป่วยทั้งหมด 160 คน ยังไม่ได้อาบน้ำกันแม้แต่คนเดียว อีกอย่างผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิดมีอาการท้องเสีย ทุกคนจำเป็นจะต้องถ่ายหนัก-ถ่ายเบา จำเป็นจะต้องเอาน้ำดื่มที่มีอยู่มาล้างขี้ล้างเยี่ยวกัน หรือบางคนไม่ยอมถ่าย อีกทั้งปัญหาอาหารได้รับครบทุกมื้อ แต่ได้รับไม่พร้อมกัน และไม่ได้มีการแยกอาหารพุทธ และอิสลาม รวมทั้งเสื้อผ้าที่ได้รับช้า และทุกครั้งจะได้รับไม่ครบจำนวนคน รวมทั้งปัญหาไฟฟ้าดับๆตลอดเวลา จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการแก้ไขแต่อย่างใด โชคดีที่ 1 ใน ผู้ป่วยที่รักษาอยู่เป็นช่างประปา ก็ช่วยกันพยายามที่จะหาทางแก้ไขกันเอง จนทำให้ผู้ป่วยทุกรายเกิดความเครียดกันเป็นอย่างมาก
“แต่อย่างไรขอชื่นชมและขอบคุณ หัวหน้าพยาบาล เจ้าหน้าที่พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาลที่สลับกันอยู่ในแต่ละเวร ช่วยเหลือและรับฟังปัญหา รวมทั้งช่วยประสานงานให้กับผู้ป่วยทุกอย่าง เท่าที่จะทำได้ เพราะพวกเรารู้ว่าพยาบาลทุกคนทำงานเต็มที่ ทำเท่าที่จะช่วยเหลือได้ เพราะงานของเขาก็เยอะอยู่แล้ว แต่ปัญหาหากจะได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง ก็ต้องให้ผู้มีอำนาจสั่งการและแก้ไข เช่นผู้ว่าฯ ไม่ใช่ให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติงานหรือผู้ป่วยแก้ไขทนรับชะตากรรมกันเอง” นายวิชาญ กล่าว
ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่รายหนึ่งว่า สำหรับพยาบาลที่ต้องปฎิบัติงาน ถูกเรียกตัวให้เข้ามาปฎิบัติหน้าที่ใน รพ.สนาม 1 กะทันหันเมื่อช่วงกลางดึกเวลาประมาณ 20.00 น.วันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา และจะต้องมาปฎิบัติหน้าที่โดยด่วนเช้าวันที่ 1 มิ.ย.โดยการปฎิบัติงานในช่วงกลางวันมีหัวหน้าพยาบาล 1 คน พยาบาล 3 คน ผู้ช่วยพยาบาลอีก 1 คน รวม 5 คน ในส่วนภาคกลางคืนจะปฏิบัติหน้าที่เหลือแค่ 4 คน โดยจะต้องดูแลผู้ป่วยที่รักษาอยู่เต็มจำนวน 160 ราย หรือ 160 เตียง ซึ่งทำงานกันเวรละ12 ชม.สลับกันไปแต่ละเวร โดยถือว่าไม่มีความสมดุลกัน ซึ่งในวันแรก พยาบาลต้องทำหน้าที่ทำความสะอาดตั้งแต่พื้น ไปจนถึงเตียงคนไข้ ที่มีขี้นกเต็มอยู่ทั่วบริเวณ รวมไปถึงปัญหาแมลงวันที่บินว่อนอยู่ทั้งอาคาร ข้าวได้รับการจัดสรรมาไม่พร้อมกัน บางครั้งพยาบาลจะต้องนำข้าวไปให้ผู้ป่วยได้รับประทานก่อน และคอยเป็นตัวกลางประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหา นอกเหนือจากภาระงานประจำ
สำหรับ รพ.สนามแห่งดังกล่าว ทางจังหวัดตรัง โดยนายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผวจ.ตรัง เพิ่งรับมอบและเปิดใช้งานเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยสำนักงานสาธารณสุข จ.ตรัง ได้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อจัดตั้ง รพ.สนามแห่งที่ 1จาก อบจ.ตรัง เพื่อใช้รองรับและให้การดูแลผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยใช้งบประมาณในลักษณะเงินอุดหนุนจาก อบจ.ตรัง จำนวน 5,758,732 บาท เพื่อดำเนินการด้านอาคารสถานที่ และครุภัณฑ์ที่จำเป็นต้องใช้ภายใน รพ.สนาม และงบประมาณของสำนักงานสาธารณสุข จ.ตรัง จำนวน 900,000 บาท เป็นค่าตอบแทนบุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุข รวมงบประมาณทั้งสิ้น 6,658,732 บาท แบ่งออกเป็น ผู้ป่วยชาย 80 เตียง และผู้ป่วยหญิง 80 เตียง ข่าวคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
ล่าสุด หลังข่าวนี้แพร่สะพัดออกปำได้รับการชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ว่า เบรคเกอร์ที่ผู้รับเหมาของ อบจ.ตรัง มาติดตั้ง มีขนาด 32 แอมป์ซึ่งเพียงพอเฉพาะ 40 เตียง แต่ในขณะที่ทางสาธารณสุขจังหวัดตรังได้เพิ่มปริมาณเตียงเป็น 3 เท่า ทำให้เบรกเกอร์ไม่สามารถรับโหลดเพิ่มขึ้นได้จึงเกิดไฟวูบวาบและเบรกเกอร์ตัด แนวทางการแก้ไขต้องเพิ่มขนาดเบรคเกอร์เป็น 100 แอมป์ และจะเร่งประสานงานแก้ปัยหาในวันพรุ่งนี้ และปัญหาเรื่องน้ำปัญหาเรื่องน้ำเมื่อวันที่1 มิ.ย.ที่ผ่านมา ช่าง อบจ.และผู้เกี่ยวข้องคุยกันว่าเเท็งน้ำพักสำรองข้างหลังปริมาณน้ำใช้เพียงพอแต่ขาดขนาดนี้เวลาก็เลยมานานต้องหาผู้รับผิดชอบโดยตรง.
