เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 มิ.ย. 64 นายราม วสุธนภิญโญ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ตามที่ สํานักงาน ป.ป.ช ได้รับเรื่องร้องเรียนกล่าวหา นายกิตติ กันตังกุล หรือปาน นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กันตังใต้ กับพวก ทุจริตกรณีในการจัดโครงการจัดการแข่งขันมหกรรมกีฬาท้องถิ่น “พระยารัษฎาเกมส์” ครั้งที่ 11 เป็นเงินทั้งสิ้น 62,240 บาท นั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช พิจารณาแล้ว ในการประชุมครั้งที่ 55/2564 กรณีการเบิก จ่ายเงินค่าเบี้ยเลี้ยงตามโครงการจัดการแข่งขันมหกรรมกีฬาท้องถิ่น “พระยารัษฎาเกมส์ ครั้งที่ 11 เป็นเงิน ทั้งสิ้น 62,640 บาท
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดว่าการกระทำของ นายกิตติ กันตังกุล มีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทํา จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล หรือเจ้าของ ทรัพย์นั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงาน ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความ เสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 มาตรา 151 และมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่ง หรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่ง หรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1
นางสาวบุญญดา เม่งอำพัน ผู้อำนวยการกองคลัง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 และนางสาวโสภีดา เป้าทอง นักวิชาการการศึกษา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 มาตรา และมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใด ในตำแหน่งหรือ หน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่ง หรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ส่วนนางสาวอรพินท์ บุษบา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ที่ประชุมพิจารณาแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นว่า จากการไต่สวนข้อเท็จจริง ไม่ปรากฎพยานหลักฐานเพียง พอที่จะฟังได้ว่า นางสาวอรพินท์ บุษบา ผู้ถูก 2 ได้กระทําความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล เห็นควรให้ข้อกล่าวหาตกไป ข้อกล่าวหาที่ 2 กรณีการจัดซื้อชุดกีฬา จำนวน 5 รายการ และวัสดุในการฝึกซ้อม จํานวน 5 รายการ
ประชุมพิจารณาแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ไต่สวน เบื้องต้นว่า จากการไต่สวนข้อเท็จจริง ไม่ปรากฏพยานหลักฐานเพียงพอที่จะฟังได้ว่า นายกิตติ กันตังกุล ผู้ถูก กล่าวหาที่ 1 ได้กระทําความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาทางอาญาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาทางอาญาตกไป แต่ การกระทําของนายกิตติ กันตังกุล ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 มีมูลความผิด ฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อย หรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92
การกระทำของ นางสาวอรพินท์ บุษบา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 นางสาวบุญญตา เม่งอำพัน ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 และนางสาวสุลัดดา กันตังกุล ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5 จากการไต่สวนข้อเท็จจริง ไม่ปรากฏ พยานหลักฐานเพียงพอที่จะฟังได้ว่า นางสาวอรพินท์ บุษบา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 นางสาวบุญญตา เม่งอำพัน ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 และนางสาวสุลัดดา กันตังกุล ข้อกล่าวหาทางอาญาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาทางอาญาตกไป แต่การกระทำของนางสาวอรพินท์ บุษบา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 นางสาวบุญญตา เม่งอำพัน ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 และนางสาวสุลัดดา กันตังกุล ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5 มีมูลความผิดทางวินัยอย่างไม่ร้ายแรงฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ ราชการให้เป็นไปกฎหมาย ระเบียบของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรี และนโยบายของรัฐบาลโดยไม่ให้เสียหาย แก่ทางราชการ ตามประกาศคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบลจังหวัดตรัง เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการ สอบสวน การลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์ ลงวันที่ 14 ธันวาคม 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
สํานักงาน ป.ป.ช.ประจําจังหวัดตรัง ได้ส่งรายงาน สํานวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณา พิพากษาคดีกับนายกิตติ กันตังกุล ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 นางสาวบุญญตา เม่งอำพัน ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 และนางสาวโสภิดา เป้าทอง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 ให้ส่งสำนวนการไต่สวนและเอกสารหลักฐาน พร้อมความเห็นไป ยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน เพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจกับนายกิตติ กันตังกุล ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 และให้ส่งรายงาน สํานวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อดำเนินการทางวินัย กับนางสาวอรพินท์ บุษบา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 นางสาวบุญญตา เม่งอำพัน ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 นางสาวโสภิดา เป้าทอง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 และนางสาวสุลัดดา กันตังกุล ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5 ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 1 (1), (2) และมาตรา 98 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 98 วรรคสี่ การไต่สวนคดีอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด.