ชาวบ้านเฮ! ตรังเปิดตลาดธงฟ้าราคาประหยัด แห่เข้าซื้อจำนวนมาก เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนยุคโควิด ขณะที่พ่อเมืองปลื้มยอดคลัสเตอร์โรงงานลดลง ผลจากโมเดล “บับเบิ้ลแอนด์ซีล” วอน 4 จังหวัดใต้เสี่ยงหยุดชะลอการเดินทางเข้าตรัง คาด ก.ค.นี้ สามารถฉีดวัคซีนด่านหน้าได้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 ก.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ลานหน้าอาคารสำนักงานเทศบาลตำบลนาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วย เป็นประธานเปิดกิจกรรมโครงการธงฟ้าราคาประหยัดลดค่าครองชีพประชาชน บรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์ COVID-19 พร้อมเยี่ยมชมการจัดกิจกรรมจำหน่ายสินค้าอุปโภค บริโภค ราคาถูก ภายใต้โครงการจำหน่ายดังกล่าว โดยผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้อนุมัติงบประมาณให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง ดำเนินการจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น เพื่อบรรเทาภาวะค่าครองชีพ ลดภาร ะค่าใช้จ่าย และช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างทั่วถึง รวมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการจับจ่ายใช้สอย โดยดำเนินการภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคฯ อย่างเคร่งครัด
โดยสินค้าที่นำมาจำหน่าย ได้แก่ ไข่ไก่ เบอร์ 2 แผงละ 30 ฟอง ราคาปกติ 105 บาท จำหน่ายเพียง 65 บาท น้ำตาลทราย ขนาด 1กก. ราคาปกติ 24.50 บาท จำหน่ายเพียง 16 บาท ข้าวหอม ขนาด 5 กก. ราคาปกติ 120 บาท จำหน่ายเพียง 75 บาท น้ำมันพืชปาล์ม ราคาปกติ 48 บาท จำหน่ายเพียง 35 บาท และยังมีสินค้าอื่น ๆ รวมทั้งสินค้าพื้นบ้าน ทั้งผัดปลอดสารพิษ และผลไม้เช่นเดียวกัน โดยมีประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
ด้านนายขจรศักดิ์ กล่าวว่า สถานการณ์โควิดภายในจังหวัดขณะนี้ ยอดผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มที่จะลดลงเพราะว่าคลัสเตอร์โรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่เคยมีการแพร่ระบาดไปจำนวน 2 โรงงาน ที่เคยมีผู้ติดเชื้อสูง ขณะนี้ยอดผู้ติดเชื้อสูงลดลง โดยจังหวัดได้ใช้โมเดลของ บับเบิ้ลแอนด์ซีล (Bubble and Seal) ในการที่จะประชาสัมพันธ์ให้โรงงานที่อยู่ในจังหวัด ที่มีคนงานหรือมีพนักงานตั้งแต่ 100 คนขึ้นไปมาทำ บับเบิ้ลแอนด์ซีล’ (Bubble and Seal) ซึ่งก็มีจำนวน 42 โรงงานที่มาลงทะเบียนไปแล้ว และเป็นข่าวดีมีอีก 10 โรงงานที่รออยากจะทำด้วย โดยเป็นนิมิตรหมายที่ดีว่าการทำ บับเบิ้ลแอนด์ซีล’ (Bubble and Seal) เป็นการที่ผู้ประกอบการสมัครใจในการทำ ที่เห็นผลชัดเจนคือ 42 โรงงานที่ทำแล้วปรากฏว่า ก็ไม่มีการแพร่ระบาดในโรงงาน ซึ่งทำในจำนวน 28 วัน
นายขจรศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับคลัสเตอร์อื่นในตอนนี้เราก็มีมาตรการเข้มงวด เนื่องจากสถานการณ์ทางจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามที่ ศบค.ประกาศ ได้แก่ จ.สงขลา จ.ยะลา จ.ปัตตานี และ จ.นราธิวาส ที่มียอดของผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ฉะนั้นก็ได้มีคำสั่งของจังหวัดตรัง ให้ผู้ที่มีความเสี่ยงจาก 4 จังหวัดดังกล่าวเข้ามาในจังหวัดจะต้องกักตัวที่บ้านเป็นระยะเวลา 14 วัน ล่าสุดได้มีการเพิ่มมาตรการเข้มข้นขึ้นในการที่จะคัดกรอง โดยมีการตั้งด่านจุดคัดกรองหลักใน 2 จุด ได้แก่ อ.นาโยง และ อ.รัษฏา ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่อยู่ประจำด่าน 24 ชั่วโมง ส่วนด่านรองอีก 2 จุด ได้แก่ อ.สิเกา และ อ.ปะเหลียน โดยได้เริ่มมาตั้งแต่วันจันทร์ที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา ก็จะเห็นได้ว่าจะมีพี่น้องที่เดินทางมาจาก 4 จังหวัดภาคใต้บ้าง แต่อยากให้ชะลอไว้ก่อน
นายขจรศักดิ์ กล่าวอีกว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีการนำร่อง “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ถ้าดูจากแนวทางของรัฐบาล จะทำให้ จ.ภูเก็ต เป็นตัวอย่างของการเปิดรับนักท่องเที่ยว ซึ่งในขณะนี้สถิติของคน จ.ภูเก็ต ที่ได้ฉีดวัคซีนไปแล้ว ประมาณเกือบ 70 เปอร์เซ็นต์ของประชากรในจังหวัด โดยนายกรัฐมนตรีอยากให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยให้นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว และอยู่ภายใต้เงื่อนไขให้อยู่ใน จ.ภูเก็ต 14 วัน ก่อนจะเที่ยวจังหวัดอื่น ๆ ก็คิดว่าเป็นมาตรการที่กระตุ้นเศรษฐกิจในเรื่องของการท่องเที่ยวให้คนใน จ.ภูเก็ต
นายขจรศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่าในส่วน จ.ตรัง ได้รับจัดสรรวัคซีนจากรัฐบาลตามมติของ ศบค. ซึ่งในเดือน ก.ค. ที่จะถึงนี้คาดว่าจะได้รับมาจำนวน 1 แสนโดส ตอนนี้เราได้เร่งฉีดให้กลุ่มที่มีความจำเป็น เช่น ครู บุคลากรทางการศึกษา โดยฉีดไปแล้วมากกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ และถ้าหากวัคซีนมาครบในเดือนนี้ก็คิดว่าจะสามารถฉีดให้กับบุคลกรทางการศึกษาครบ 100 เปอร์เซ็นต์ และในส่วนของ แพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ และ อสม. กำลังเร่งฉีดให้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ ในส่วนอื่น ๆ เช่น พ่อค้า แม่ค้า คนที่จะต้องไปพบปะคนส่วนมากคนกลุ่มนี้ได้อยู่ในรายชื่อที่ อบจ.ตรัง จะจัดซื้อวัคซีนจากราชวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ 40,000 คน อยู่ในบัญชีเรียบร้อยแล้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะมาในเดือน ก.ค.นี้เช่นเดียวกัน.
