แปลกดีแอ๊ะ! ตรัง-ทีมกู้ภัยวังวิเศษ สวมชุดอวกาศปฏิบัติสนธิกำลังทลายรังต่อ บุกจับตัวเป็นๆ ช่วงกลางดึก หลังต่อย ส.อบต.สุโสะ ต้องหามส่ง รพ.
เมื่อเวลา 21.00 น.คืนวันที่ 16 ก.ค.64 ที่สำนักงาน อบต.สุโสะ ตั้งเลขที่ 111 ม.9 ต.สุโสะ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง นายสมคิด รองเดช นายก อบต.สุโสะ และ จ.ส.อ.มนต์ชัย ดาราฉาย นักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยปฏิบัติการฯ นายนายธรรมรักษ์ พันธุ์ศักดิ์ สมาชิกทีมกู้ภัยทุ่งยาว แจ้งประสานมายังนายไสว แก้วเจือ หน่วยกู้ภัยบรรเทาวังวิเศษ และลูกข่ายในข่ายกู้ภัยบรรเทาวังวิเศ ชุดปราบเคลื่อนย้ายและทำลายรังตัวต่อโดยไม่ใช้ไฟเผา โดยทำการไลน์เฟซบุ๊กส่วนตัว ท่ามกลางความสนใจของชาวเน็ตฯ ให้ความสนใจเข้ามาแชร์กันกระหึ่ม
นายไสว แก้วเจือ นำทีมปราบสรพิษชุดทำลายและเคลื่อนย้ายรังตัวต่อ เผยว่า หลังรับแจ้งประสานมาตนและทีมงานได้เดินทางลงพื้นที่มาที่ อบต.สุโสะ เพื่อเข้าตรวจสอบประเมินสถานการณ์ โดยที่ไม่ใช้วิธีการจุดไฟเผาทำลายให้ตัวแม่มันตาย โดยหันมาใช้วิธีสวมชุดนิรภัยแบบนักอวกาศ เข้าไปเคลื่อนย้ายรังเพื่อความปลอดภัย พบว่าตัวต่อได้มาทำรังอยู่ที่ ห้องเก็บของของ อบต.สุโสะ เป็นเวลาหลายเดือนกำลังเติบใหญ่ ตัวแม่บินว่อนไปหมด และเมื่อไม่กี่วันมานี้ ได้ต่อยสมาชิกสภา อบต .ถึงกับต้องเข้าโรงพยาบาลมาแล้ว เคสนี้จึงตัดสินใจปฏิบัติการในช่วงตอนกลางคืนเพราะว่าไม่เป็นอันตรายต่อผู้อยู่รอบข้างซึ่งตัวต่อมันจะมองไม่เห็น แต่ถ้าเป็นเวลากลางวันเราเองก็ทำได้แต่อันตรายต่อชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชม.เศษจนภารกิจสำเร็จด้วย
ด้าน จ.ส.อ.มนต์ชัย ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกัน อบต.สุโสะ เผยว่า ตนได้ปรึกษาหารือกับทางผู้บริหารว่าจะทำลายอย่างไรกันดี ซึ่งกรณีนี้จะเผารังต่อด้วยการใช้ไฟจุดตามที่ชาวบ้านทั่วไปเขาทำกันทั่วๆ ไปก็ลงความเห็นว่าจะไม่ได้เพราะว่าของที่เก็บไว้ในโกดังนั้นเป็นอุปกรณ์ที่ไวไฟและเป็นเชื้อเพลิงที่ติดง่าย จึง ไปปรึกษากับนายธรรมรักษ์ พันธุ์ศักดิ์ ทีมกู้ภัยทุ่งยาว ได้ให้คำแนะนำและประสานมายังหน่วยกู้ภัยบรรเทาวังวิเศษ ซึ่งทำลายรังตัวต่อด้วยความชำนาญและมีประสบการณ์ในการทำลายรังต่อมาหลายเคสแล้ว ที่เข้ามาทำรังอยู่ตามอาคารบ้านเรือน ตามโรงเรียนและวัด ซึ่งวันนี้หน่วยกู้ภัยวังทองวังวิเศษ ได้ลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจโดยใช้ชุดนิรภัยแบบนักอวกาศคลุมทั่วร่างกายเข้าทำลายอย่างปลอดภัย ทาง อบต สุโสะ ต้องขอขอบคุณทีมงานชุดทำลายเล็กเรื่องย้ายรังตัวต่อ เรียกง่ายใช้คล่องคนจิตอาสาโดยไม่ได้เรียกค่าสินไหมแต่อย่างใด.