หลายหน่วยงานแห่รวบรวมเงินบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาได้จำนวน 119,200 บาท มอบให้กับชายวัย 47 ปีที่ประกาศขายไตเพื่อนำเงินมารักษาภรรยาที่ถูกไม้หล่นทับและเลี้ยงดูลูกในวัยเรียนอีก 2 คน โดยมีหนี้สินกว่า 5 แสนบาท เจ้าตัวเผยเคยมีคนมาขอซื้อแล้วแต่กรุ๊ปเลือดไม่ตรงกันและกล่าวย้ำจะไม่ประกาศขายไตอีกแล้ว
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 23 ก.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่นายวิรัฐ นุ่นใหม่ อายุ 47 ปีอยู่บ้านเลขที่ 32/1 หมู่ 12 ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง ประกาศขายไต 1 ข้าง เพื่อนำเงินมาใช้หนี้นอกระบบที่กู้ยืมมาเพื่อเป็นค่ารักษาตัวของนางแก้วทิพย์ คำรณ อายุ 44 ปีภรรยา ซึ่งถูกต้นไม้ที่อยู่ริมถนนสายตรัง-น้ำผุด อ.เมืองตรัง ซึ่งอยู่ในเขตรับความผิดชอบแขวงทางหลวงตรัง หักโค่นลงมาทับศีรษะแตกเย็บ 8 เข็มเมื่อปี 2557 และยังทำให้กระดูกสันหลังหัก ระบบเส้นประสาทได้รับความกระทบกระเทือนอย่างหนัก สามารถเดินได้แต่ทำงานไม่ได้ และมีอาการปวดหัวเมื่อมีเสียงดัง โดยต้องทนทุกข์ทรมานมานานกว่า 4 ปีแล้ว นอกจากนี้ ยังมีหนี้ค้างค่างวดรถยนต์อยู่อีกหลายงวด รวมเงินกว่า 500,000 บาท โดยก่อนที่จะประกาศขายไตนายวิรัฐฯ เคยพยายามฆ่าตัวตายเพื่อหนีปัญหา แต่ครอบครัวและลูกสาวทั้งสองคนได้ห้ามไว้ นายวิรัฐฯ จึงไร้ทางออกและได้ประกาศขายไตผ่านสื่อ โดยมีคนมาติดต่อขอซื้อแล้ว แต่บังเอิญกรุ๊ปเลือดไม่ตรงกัน
หลังข่าวแพร่สะพัดออกไปวันนี้ ดร.สุธาสินี นิติสาครินทร์ กรรมการผู้จัดการบริษัทฟิลม์มาสเตอร์ จำกัด ได้มอบหมายให้ตัวแทนบริษัทฯ พร้อมผู้มีจิตศรัทธาในผองเพื่อน ได้นำเงินสดจำนวน 119,200 บาท มามอบให้กับสองสามีภรรยาคู่นี้ผ่านทางนายนิพันธ์ ศิริธร ส.ส.จตรัง เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ ที่บ้านเลขที่ 1 ต.นาท่ามใต้ อ.เมือง จ.ตรัง สร้างความดีใจให้กับสองสามีภรรยาเป็นอย่างมาก ซึ่งทั้งนายวิรัฐ และนางแก้วทิพย์ กล่าวด้วยความรู้สึดตื้นตันใจว่าได้ใช้เงินหนี้ไป 100,000 กว่าบาท ยังคงค้างธนาคารอยู่ประมาณ 300,000 บาท แต่คิดว่ามีความสามารถจะไปต่อได้แล้ว และก่อนหน้านี้มีคนมาขอซื้อไตแล้วแต่กรุ๊ปเลือดไม่ตรงกัน และเงินที่ได้จะนำไปใช้หนี้นอกระบบและผ่อนชำระค่างวดรถ ถ้าเงินส่วนนี้หมดก็สามารถไปต่อได้โดยไม่ต้องประกาศขายไตแล้ว และไม่มีความคิดจะขายไตอีกแล้ว
ส่วนค่าชดเชยจากแขวงการทางตรัง ก็อยากให้เข้ามาเยียวยาดูแลเพราะภรรยายังทำงานไม่ได้ เหตุเกิดจากไม้ยางของแขวงทางหลวงหล่นใส่ ซึ่งเคยเข้ามาเมื่อปี 57 โดยให้เงินไว้จำนวน 10,000 บาทแล้วก็เงียบหายไป แต่ก็ยังไม่พอกับการที่ไม่ได้ทำงานมา 4 ปีแล้ว มาจนถึงวันนี้ก็เข้ามาหาแต่ผ่านไป 1 เดือนแล้วแต่ก็ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น.