ตรัง-ตร.คุมตัว”ไอ้เมี้ยก” ฝากขังเรือนจำตรัง ตรวจโควิด-19 เจอผลบวก ส่งผล ตร.ชุดจับต้องเข้าตรวจ ATK กันวุ่นกว่า 10 นาย รอบแรกผลตรวจเป็นลบ ขณะที่บรรยากาศงานศพเป็นไปอย่างโศกเศร้า ญาติบางตาร่วมพิธีสวดอภิธรรมแยก 2 ศาลา
จากกรณีเกิดเหตุสุดสยอง นายอรุณทร นิ่มนวล หรือ “เมี้ยก ห้วยนาง” อายุ 37 ปี ไม่ประกอบอาชีพ บุกเดี่ยวเข้าบ้านเลขที่ 46 หมู่ 4 บ้านห้วยนางใต้ ต.ห้วยนาง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ก่อเหตุใช้มีดพกปลายแหลมแทงและมีดพร้าฟันคอนายสุพรรณ แก้วเกื้อ หรือ เอียด อายุ 59 ปี เป็นน้องชายของนายประพัฒน์ แก้วเกื้อ อดีตประธานสภาทนายความ จ.ตรัง เข้าที่ชายโครงซ้าย 1 แผล ขวา 1 แผล ก่อนใช้มีดพร้าฟันคอจนขาดศีรษะหลุดออกจากร่าง ขณะนั่งปลดทุกข์ในห้องน้ำ ก่อนจะลงมือใช้มีดพร้าฟันคอนางเพ็ญนภา อ้อยเป็น หรือหญิง อายุ 52 ปี อาชีพขายน้ำอ้อย สองสามีภรรยาจนขาดศีรษะหลุดออกจากร่างเช่นเดียวกัน ขณะกำลังทำอาหารทอดปลาเค็ม ซึ่งต่อมา ตร.ได้ปิดล้อมจับกุมที่บ้านพัก เหตุเกิดเวลาประมาณ 18.30 น. วันที่ 7 พ.ย.64 ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ข่าวคืบหน้า ประมาณ 12:30 น.วันที่ 8 พ.ย.64 พ.ต.ท.ผจญ เนียมรินทร์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ห้วยยอด ได้นำตัว นายอรุณทร หรือ “เมี้ยก ห้วยนาง” ผู้ต้องหาไปฝากขังที่เรือนจำชั่วคราวบ้านเหรียงห้อง ต.นาท่ามเหนือ อ.เมืองตรัง ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาตรวจ ATK หาเชื้อโควิด-19 ผลตรวจเป็นบวก ต่อมาเวลา 16.00 น.ทางเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เรือนจำตรังได้มารับตัวไปฝากขังต่อภายใน รพ.สนามของเรือนจำตรัง
ขณะเดียวกันได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.ประดิษฐ ชัยพล ผกก.สภ.ห้วยยอด ว่าหลังทราบผลตรวจผู้ต้องหารายนี้เป็นบวกได้เรียกพนักงานสอบสวน และ ตร.ชุดปฏิบัติงานถือเป็นกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงกว่า 10 นาย เข้ารับการตรวจ ATK เพื่อตรวจหาเชื้อครั้งแรกวันนี้ผลเป็นลบทั้งหมด ซึ่งที่ผ่านมาการปฏิบัติงานตนได้สั่งกำชับเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวดในการป้องกันตนเอง
ต่อมาเวลา 17.45 น.วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดห้วยนาง อ.ห้วยยอด ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของนายสุพรรณ หรือ เอียด ผู้เป็นสามี และ นางเพ็ญนภา อ้อยเป็น หรือหญิง ซึ่งตั้งแยกศาลากัน โดยบรรดาญาติๆ ผู้เสียชีวิตได้ร่วมกันสวดอภิธรรมศพให้กับผู้เสียชีวิตโดยเริ่มสวดศพนายสุพรรณ ก่อนจะสวดอภิธรรมศพของนางเพ็ญนภา บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจของบรรดาญาติพี่น้องและบุตรหลานผู้เสียชีวิต โดยมีผู้ร่วมงานบางตา อีกทั้งยังมีการเว้นนระยะห่างปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวด.