สาวชาวตรังวัย 31 ปี เปิดร้านขายลูกชิ้นทอดตามปกติ แม้จะมีน้ำท่วมบ้านและร้านค้าสูงเกือบ 50 เซนติเมตร ซึ่งต้องผูกเชือกโยงร้านไว้กันคลื่นน้ำกระแทก เผยน้ำท่วมยิ่งขายดีแม้ต้องยืนอยู่ในน้ำที่สวมรองเท้าบูทเกือบทั้งวันก็ตาม
วันนี้ 20 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หน้าบ้านเลขที่ 143/1 หมู่ 5 ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง ซึ่งหน้าบ้านเปิดเป็นร้านขายลูกชิ้นทอดของ นางนฐลักษณ์ ตรุรักษ์ อายุ 31 ปี วันนี้ถูกน้ำท่วมสูงประมาณ 40 เซนติเมตร แต่เธอไม่คิดที่จะปิดร้าน เพราะได้ซื้อลูกชิ้นไว้ก่อนล่วงหน้า ก่อนที่น้ำจะค่อย ๆ ไหลเข้าท่วมบ้านในช่วงเวลาประมาณ 15.00 น.ของวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา
โดยระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนเกือบหัวเข่า แต่เธอก็ยังตั้งโต๊ะขายลูกชิ้นกลางน้ำ แล้วใช้เชือกสีชมพูผูกขาโต๊ะให้ติดกับเสาหน้าบ้าน ป้องกันคลื่นน้ำที่เกิดจากรถยนต์บางคัน ที่วิ่งผ่านด้วยความเร็วสูง ส่วนเธอป้องกันโรคน้ำกัดเท้าด้วยการสวมรองเท้าบูทที่สูงถึงหัวเข่า และยืนทอดลูกชิ้นขายมาตั้งแต่เวลาประมาณ 08.00 น. ปรากฏว่าขายดีกว่าปกติ เพราะชาวบ้านเดินทางเข้าออกลำบาก จึงเป็นโอกาสทองในการหารายได้ในช่วงนี้
โดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก ๆ ที่เล่นน้ำกันทั้งวัน ก็จะแวะซื้อลูกชิ้นไปกิน ทั้งทอดเอง-ราดน้ำจิ้มเองบ้าง ให้แม่ค้าทอดให้บ้างแล้วแต่สะดวกมีทั้งลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นเอ็นไก่ ลูกชิ้นหมู ไส้กรอก ชีส ปูอัดและอื่น ๆ รวม 10 เมนู ราคาไม้ละ 5 บาท และ 10 บาท ทอดสดใหม่ น้ำจิ้มสูตรเฉพาะของทางร้าน รสชาติหวานอมเปรี้ยว จึงทำให้เป็นที่ถูกใจของลูกค้าเป็นอย่างมาก ยิ่งช่วงน้ำท่วมยิ่งขายดีขึ้น โดยใช้เวลายืนทอดลูกชิ้นอยู่ในน้ำประมาณ 4-5 ชั่วโมงก็ขายหมดแล้ว สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 1,600 บาทต่อวัน จากปกติขายได้วันละ 1,000-1,200 บาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประจำคือคนในละแวกบ้าน ที่ซื้อแล้วก็ยืนกินกันในน้ำได้บรรยากาศสุดฟินไปอีกแบบ
โดยนางนฐลักษณ์ ตรุรักษ์ กล่าวว่า น้ำไม่ท่วมก็ขายดีอยู่แล้ว แต่พอน้ำท่วมก็ขายดีขึ้น แต่ปกติขายได้ 1,000-1,200 บาท ซื้อของก็ 600-700 บาทแล้ว กำไรสัก 300-400 บาทก็พออยู่ได้ เพราะมีลูกค้าขาประจำแถวบ้าน โดยเชื่อว่าระดับน้ำจะไม่สูงไปกว่านี้หากฝนไม่ตกเพิ่ม เพราะวันนี้ได้เห็นแสงแดดแล้ว.
