ชาวบ้านระทม! ล่ารายชื่อร้องศูนย์ดำรงธรรม และ ป.ป.ช.ตรัง หวังเป็นที่พึ่ง ให้ตรวจสอบการปฎิบัติหน้าที่ ผู้ใหญ่บ้านรายหนึ่งปล่อยปละละเลยในหน้าที่ทำให้โครงการในหมู่บ้านกว่า 6 โครงการงบประมาณนับล้านบาท ถูกทิ้งร้างว่างเปล่า บางส่วนเสียหายและสูญหาย ชาวบ้านไม่ได้รับประโยชน์จากภาษี ขณะที่มีคลิปเสียงชาวบ้านถูก ผู้ใหญ่ข่มขู่ไม่ให้ลงชื่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสนิต รัตนะ อายุ 57 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.หาดสำราญ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง พร้อมด้วยนายไชยยันต์ รัตนะ ตัวแทนชาวบ้าน ได้นำหนังสือร้องเรียนและเอกสารหลักฐานประกอบ เป็นภาพถ่ายโครงการต่างๆในหมู่บ้าน จำนวน 5 แผ่น และรายชื่อราษฎร หมู่ 7 จำนวน 49 คน เดินทางเข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม จ.ตรัง โดยมี น.ส.จุฑามาส สุขแก้ว นิติกร ประจำศูนย์ดำรงธรรม จ.ตรัง เป็นผู้รับเรื่อง และยังได้มีการไปยื่นหนังสือร้องเรียนกับสำนักงาน ป.ป.ช.จ.ตรัง
โดยขอให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบในการปฎิบัติหน้าที่ นายวินิต (สงวนนามสกุล) ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ได้รับงบประมาณในการพัฒนาชุมชนของหมู่ที่ 7 ได้แก่ 1.ประปาหมู่บ้าน 2.โรงเรือนเลี้ยงนกกระทา 3.งบประมาณซ่อมแซมศาลาประชาคมหมู่บ้าน 4.อุปกรณ์เครื่องครัวประจำหมู่บ้าน 5.เต็นท์ โต๊ะ และเก้าอี้ประจำหมู่บ้าน 6.เครื่องขยายเสียง (เสียงตามสาย) ประจำหมู่บ้าน โดยงบประมาณดังกล่าวที่ได้รับและได้ดำเนินการปรากฏว่า ประชาชนไม่ได้รับผลประโยชน์เท่าที่ควร เพราะ 1.ผู้ใหญ่บ้านขาดการดูแลเอาใจใส่ รักษา 2.ปล่อยปละ ละเลย โดยทำให้โครงการต่างๆได้รับความเสียหาย เช่น เครื่องครัว เต็นท์ โต๊ะ เก้าอี้ ฯลฯ 3.ทำให้งบประมาณที่มาจากภาษีของประชาชน สูญเปล่า ได้รับผลตอบแทนไม่คุ้มค่า ไม่ช่วยกันบำรุงรักษา และไม่มีการตรวจสอบดูแล และไม่รับฟังเสียงของชาวบ้าน จึงทำให้ราษฎรหมู่ 7 ต.หาดสำราญ ได้ร่วมกันลงมือชื่อ และแนบสำเนาบัตรประชาชน จำนวน 49 คน เพื่อขอให้ทางศูนย์ดำรงธรรม จ.ตรัง ดำเนินการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ถ้าหากปล่อยปละ ละเลย ไม่ปฎิบัติหน้าที่ ที่ได้รับผิดชอบ มอบหมายเห็นสมควรตั้งคณะกรรมการสอบวินัยต่อไปด้วยเช่นกัน เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับหน่วยงานปกครอง ในเขตหมู่บ้านอื่นๆ ในพื้นที่ จ.ตรัง
ด้าน นายสนิท รัตนะ อายุ 57 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 กล่าวว่า หลังจากตนหมดวาระผู้ใหญ่บ้านไป ผู้ใหญ่บ้านรายดังกล่าวก็ได้ดำรงตำแหน่ง ชาวบ้านก็ได้รับความเดือดร้อน เลยให้ตนมาเป็นตัวกลางในการเดินเรื่องร้องเรียน โดยผู้ใหญ่บ้านคนใหม่ ไม่รับผิดชอบในหน้าที่เท่าใดนัก ไม่ว่าจะเป็นเครื่องครัวหมู่บ้าน โต๊ะ เต็นท์ สูญหาย ไม่เหลือแม้แต่ซาก โครงการต่างๆที่ได้รับงบมากลับถูกทิ้งร้างไม่ได้ใช้ประโยชน์ ทั้งโครงการทำน้ำประปา งบประมาณ 4 แสน โรงเรือนเลี้ยงนกกระทา งบประมาณ 4 แสนกว่าบาท ศาลาประชาคม งบประมาณ 4 แสนกว่าบาท กลับถูกทิ้งพังรกร้าง รวมงบประมาณทั้งหมดแล้วนับล้านบาท แม้แต่โครงการน้ำประปาที่เข้ามาชาวบ้านไม่เคยได้ใช้น้ำแม้แต่หยดเดียว เหตุการณ์ดังกล่าวที่ชาวบ้านต้องทนมายาวนานกว่า 9 ปี ทำให้ชาวบ้านที่เดือดร้อนกว่า 30-40 ครัวเรือน และตนขอยืนยันว่าการมาร้องเรียนในครั้งนี้ตนเป็นตัวแทนที่ชาวบ้านเลือกมาให้ช่วย โยที่ตนไม่ได้มีความขัดแย้งใดๆกับผู้ใหญ่บ้านรายดังกล่าว ก่อนที่จะมายื่นเรื่องในวันนี้ ก็ได้มีการพูดคุยส่วนตัวกันบ้างแล้ว เพื่อให้ปรับปรุงให้ดีขึ้น แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น
ขณะเดียวกันตัวแทนชาวบ้านได้มอบคลิปเสียงให้กับผู้สื่อข่าว ซึ่งเป็นการสนทนาระหว่างผู้ใหญ่บ้านรายดังกล่าว กับชาวบ้าน ในระหว่างที่กำลังเขียนรายชื่อเพื่อยื่นร้องเรียน กลับถูกผู้ใหญ่บ้านรายดังกล่าวข่มขู่ หากร้องเรียนจะแจ้งความและฟ้องร้องกลับ พร้อมทั้งบังคับไม่ให้ลงรายชื่อ ทำให้ชาวบ้านซึ่งเป็นผู้หญิงคนดังกล่าว ขณะนี้ได้ย้ายทะเบียนบ้านออกไปนอกพื้นที่แล้วเนื่องจากหวาดกลัว
เบื้องต้นทาง เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.ตรัง และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.จ.ตรัง ได้รับเรื่องราวร้องเรียน และจะพิจารณา ดำเนินการตามขั้นตอนและระเบียบของกฎหมายและระเบียบทางราชการ พร้อมทั้งให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายต่อไป.