จับรายวัน! ชุด ฉก.ผู้ว่าฯ ตรัง บุกตรวจ 2 ร้านเหล้า เย้ยคำสั่งจังหวัดขายแอลกอฮอล์ให้นักดื่มกว่า 80 ชีวิต ดื่มด่ำโจ่งครึ่มในร้านเย้ยโควิด ขณะที่ 1 ใน 2 ร้านพบลอบให้เด็กต่ำกว่า 20 ปี เข้าดื่มสุรา เตรียมชงผู้ว่าฯ สั่งปิด 5 ปี ขณะที่ปกครองเตรียมใช้ยาแรงเสนอ ศบค.ตรัง เอาผิดกับลูกค้าด้วย หลังมีนักดื่มติดเชื้อโควิดในร้านเหล้าแล้วก่อนหน้านี้ แถมยังคงมีการลอบเปิดขายรายวัน ทั้งที่มีการจับกุมและป้องปรามอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 14 ม.ค.65 นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผวจ.ตรัง นายสราวุฒิ ธนาเจริญสกุล นายอำเภอเมืองตรัง สั่งการให้ นายสิน นุ้ยด้วง ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง นายอดิศร ชูพูล รอง ผบ.ร้อย อส.จ.ตรัง ที่ 1 นายธวัชชัย กรเพชร ปลัดอำเภอฝ่ายอำนวยความเป็นธรรม กำลัง อส.อ.เมืองตรัง ที่ 3 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง กว่า 20 นาย นำกำลังบุกเข้าตรวจร้าน ตู้แดง และร้าน 4 GEN ซึ่งตั้งอยู่ถนนรัษฎา ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง (ภายในเขตเทศบาลนครตรัง) หลังจากได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าทั้งสองร้านมีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และให้ลูกค้านั่งดื่มภายในร้าน
ก่อนนำกำลังเข้าตรวจสอบ พบว่าทั้งสองร้าน อยู่ติดกัน หากมองแบบผิวเผินก็เหมือนร้านเดียวกัน ซึ่งพบว่าทั้งสองร้าน มีลูกค้านั่งดื่มกินกันจำนวนมากประมาณ 70-80 คน และมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกโต๊ะ แต่ละโต๊ะนั่งกันแน่น รวมทั้งไม่มีการจัดเว้นระยะห่างตามมาตรการป้องกันโควิด-19 สุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด รวมทั้งมีการจัดโปรโมชั่นจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในราคาที่ถูกลง
ส่วนที่ร้าน 4 GEN ได้มีการปล่อยปละละเลยให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 1 ราย นั่งดื่มแอลกอฮอล์อยู่ภายในร้านด้วย โดยไม่ได้มีการตรวจบัตรประจำตัวประชาชนหรือมีการว่ากล่าวตักเตือน จึงได้เชิญตัวเจ้าของร้าน 4 GEN คือ นายศักดิ์ชัย นิธิพรเดชะ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 153 หมู่ 1 ต.ท่าข้าม อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ดำเนินคดีพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา 1.ฝ่าฝืนคำสั่ง จ.ตรัง ที่ 42/2565 เรื่องมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโร่นา 2019 ตามข้อ 2 (1.) ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน 2.ฝ่าฝืนขายสุราโดยไม่มีใบอนุญาต ตามมาตรา 196 พรบ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 3. ยุยงส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กมีพฤติกรรมไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีพฤติกรรม เสี่ยงต่อการกระทำผิดโดยปล่อยปละละเลยให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้านตามมาตรา 78 แห่ง พรบ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546
ขณะที่ร้าน ตู้แดง ได้เชิญตัว นายปกรณ์ เอียดศิริพันธ์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 118/39 ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง ดำเนินคดีพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา 1.ฝ่าฝืนคำสั่ง จ.ตรัง ที่42/2565 เรื่องมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโร่นา 2019 ตามข้อ 2 (1.) ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน 2.จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยวิธีการหรือในลักษณะ การลดราคาเพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมการขาย ฝ่าฝืนมาตรา 30 พรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 พร้อมกันนี้ได้เชิญลูกค้าทั้งสองร้านไปให้ถ้อยคำเพื่อเป็นพยาน และนำตัวเจ้าของร้านทั้งสอง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองตรัง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
นายธวัชชัย กรเพชร ปลัดอำเภอเมืองตรัง กล่าวว่า ตามคำสั่งของ จ.ตรังที่ 42/2565 ยังคงไม่มีการอนุญาตให้ร้านเปิดบริการให้ลูกค้าดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้าน เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ของ จ.ตรัง ยังมีผู้ติดเชื้ออยู่ โดยวันนี้มีเป้าหมายคือลงตรวจอย่างเช่นปกติ เพื่อเป็นการป้องปรามและตักเตือน ซึ่งได้ลงไปตรวจจำนวน 2 ร้าน ซึ่งเป็นร้านที่เป็นเป้าหมายจากการร้องเรียนไปถึง นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผวจ.ตรัง ทำให้พบว่ามีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้านจริง ในส่วนของร้าน 4 GEN ที่พบเด็กเยาวชนต่ำกว่า 20 ปี อาจจะต้องชงให้ทางผู้ว่าราชการ จ.ตรัง มีคำสั่งปิดให้บริการ จำนวน 5 ปี โดยนโยบายของทาง จ.ตรัง เน้นในการป้องปราม และควบคุมผู้ประกอบการ ลูกค้าที่เข้าไปใช้บริการ ก็อาจจะมีความผิดเพราะมีส่วนร่วมในการกระทำความผิด แต่นโยบายหลักๆ ของจังหวัดคือเน้นในเรื่องของผู้ประกอบการมากกว่าหากผู้ประกอบการไม่ปล่อยปละละเลย ไม่จำหน่าย เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ลูกค้าก็คงจะไม่ไปสั่งดื่มกิน ก็เลยเน้นในเรื่องผู้ประกอบการเป็นหลัก
นายธวัชชัย กล่าวอีกว่า ข้อเท็จจริงก่อนหน้านี้ได้จับกุมไปแล้ว 2 ร้าน และ 1 ใน 2 ร้านก่อนหน้านี้ที่จับกุมไป กลับมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งเข้าไปใช้บริการเมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่ไม่ขอเปิดเผยชื่อร้านเนื่องจากเป็นข้อมูลทางสาธารณสุข หลังจากนี้ก็จะมีมาตรการที่เข้มข้นมากขึ้น แล้วรวมไปถึงอาจจะมีการต้องเสนอทางคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ (ศบค.ตรัง) เพื่อที่จะออกมาเป็นคำสั่งจังหวัด ในการเอาผิดกับลูกค้าด้วย เพื่อที่จะให้มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้มีการฝ่าฝืนอีก.
