สาวใหญ่วัย 46 ปี นักธุรกิจประกันภัยเมืองตรัง เข้าร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าวหลังพารถราคาหลักล้านเข้าซ่อมเกียร์ในอู่นานเกือบปีถูกจอดทิ้งสภาพเป็นซากรถ ถึงกับเข่าทรุดหลังเพื่อนโทรมาบอกกระจกรถถูกมือดีทุบแตกละเอียดรอบคัน หลังเจรจาเจ้าของอู่นานหลายเดือนไร้ความรับผิดชอบสอบถามได้แต่บ่ายเบี่ยง ก่อนตัดสินใจเข้าแจ้งความกับตำรวจ
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 22 มี.ค.65 ที่บ้านเลขที่ 315/4 ใกล้หัวโค้งเวทิน ถ.กันตัง ต.ทับเที่ยง เขตเทศบาลนครตรัง เปิดสำนักงานประกันภัย น.ส.ศิณศา ทองอร่าม หรือเจ้ปลา อายุ 46 ปี เข้าร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อช่วงปลายเดือน มิ.ย.64 ตนได้นํารถยนต์ ยี่ห้อเชฟโรเลต รุ่น แคปติวา สีบรอนด์ ทะเบียน กท 9678 ตรัง (ขอปกปิดทะเบียนรถ) ไปทําการซ่อมที่อู่บังเหม ตั้งอยู่ที่ ต.ควนปริง อ.เมืองตรัง ต่อมาวันที่ 29 ส.ค. 2564 เวลาประมาณ 13.30 น. ตนได้รับแจ้งว่ารถของตนถูกทุบตีทําลายจนได้รับความเสียหาย บริเวณกระจกไฟฟ้าทุกบาน โดยเจ้าของอู่ คือ บังเหม รับว่าจะเป็นผู้ที่รับผิดชอบความเสียหายทั้งหมดให้ ตามบันทึกประจําวันลงวันที่ 29 ส.ค.64 เวลา 15.06 แต่จนถึงปัจจุบันล่วงเลยระยะเวลามาเกือบ 10 เดือนแล้ว รถยนต์คันดังกล่าวก็ไม่มีการซ่อมแซมใดๆ และถูกปล่อยทิ้งไว้ในสภาพเหมือนซากรถ ล่าสุดตนตัดสินใจเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.ท.ธีระธรรม ยศไพโรจน์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง แล้วเมื่อวันที่ 21 มี.ค.65 ที่ผ่านมา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
น.ส.ศิณศา หรือเจ้ปลา เล่าว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้วตั้งแต่ต้นปี มิ.ย.ปีที่แล้ว ตนโทรไปแล้วก็ถูกเขาบ่ายเบี่ยงจึงทำให้เรารู้สึกว่าเขาทิ้งรถเราไว้เหมือนไม่มีค่าเลย มูลค่ารถคันนี้ช่วงนั้นที่ซื้อนั้นอยู่ที่ 1 ล้านกว่า ใช้อยู่ 6-7 ปี โดยครั้งแรกซ่อมเครื่อง เสร็จแล้วก็ซ่อมเกียร์ ช่วงที่ซ่อมเกียร์นั้นเขาได้แจ้งเราว่าจะซื้ออะไหล่มือสองจากคนที่เขาขายซากรถทิ้ง ตนจึงต้องรอประมาณ 2 เดือน ก่อนที่หลานโทรมาแจ้งว่ารถของตนถูกทุบกระจก ตนจึงรีบไปดูพบว่ารถถูกทุบกระจกไฟฟ้ารอบคันเลย เมื่อเห็นสภาพแล้วตกใจมากไม่รู้เกิดอะไร เพราะเจ้าของอู่ไม่ได้โทรบอกตนหลังเกิดเหตุไปแล้ว 2-3 วัน เหมือนกำลังปกปิดอะไรอยู่
“ตนยอมรับว่าอยากได้อะไหล่ที่ราคาถูกหน่อยจนเกิดเหตุการณ์รถตนก็ยังไม่ได้ซ่อมอะไรเลย เมื่อตนสอบถามบังเหม ซึ่งเป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถแจ้งว่าได้เกิดปัญหามีเรื่องทะเลาะกับทางญาติ แต่จะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตนเองก็ไม่ได้ว่าอะไรจึงปล่อยรถให้ซ่อมต่อ แต่เมื่อไปดูก็พบว่ายังไม่ซ่อมโดยเจ้าของอู่แจ้งว่ารอเงินก่อน แต่ตนสังเกตดูรถคันอื่นก็ซ่อมได้ตามปกติ ตอนนี้ตนก็ได้รับความเดือดร้อนเพราะไม่มีรถใช้บรรทุกของขายหารายได้พิเศษ หลังจากทำงานหลักคือเปิดบริษัท ทำธุรกิจประกันภัย ตอนนี้ตนก็ขาดรายได้จากการขายของ ขายเสื้อผ้าเด็ก มาเกือบ 1 ปีแล้วหลังจากรถเสีย เพราะตนจอดไว้ตั้งแต่เดือน มิ.ย.ปีที่แล้ว ตนก็ไม่ได้อยากเอาเรื่องอะไรเลยหากเขารับปากว่าจะซ่อมแล้วซ่อมให้ แต่ตนเสียความรู้สึกมากไปติดตามกี่ครั้งก็ไม่มีความเคลื่อนไหว ซึ่งเขาซ่อมรถคันอื่นได้แต่ทำไมไม่ซ่อมให้ตน สอบถามก็อ้างว่าไม่มีอะไหล่ล่าสุดบอกว่าป่วยโดยให้ภรรยารับหน้าแทน ออกมาคุยแต่ตนก็ยังรอจวบจนวันนี้ออกไปดูรถปรากฏว่ารถยังจอดไว้เหมือนเดิม จึงรู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว ตอนนี้อยากฝากเจ้าของอู่ให้เร่งซ่อมตนก็จะจบเรื่อง อยากให้ซ่อมเหมือนเดิม เพราะหากตั้งไว้ก็อาจจะทำให้อย่างอื่นเสียหายตามไปด้วย จึงอยากฝากเป็นอุทาหรณ์ให้คนที่จะพารถไปซ่อมอู่หากไม่เคยซ่อมก็อย่าไปเลย ส่วนสาเหตุที่ตนได้นำรถไปซ่อมร้านนั้น เพราะเจ้าของอู่รู้จักกับแฟนตนจึงเชื่อใจและไว้ใจให้ซ่อม น.ส.ศิณศา หรือเจ้ปลา กล่าวทิ้งท้าย
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสังเกตที่อู่บังเหม มีรถจอดอยู่หลายคันแต่วันนี้ไม่ได้เปิดทำการ และพบรถยนต์ ยี่ห้อเชฟโรเลตคันดังกล่าวของเจ้ปลาจอดอยู่หน้าอู่ริมถนนยังไม่มีการซ่อม และมีกระสอบปุ๋ยปิดคลุมช่องกระจกที่แตกเอาไว้ ข่าวคืบหน้าจะรายงานต่อ.
