ผอ.สำนักงานพุทธฯ ตรัง ออกโรงแจงเหตุ พระมหาดาวติ๊กต็อก โพสต์ออกทริปล่องเรือ-ดำน้ำ รับเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมและไม่ถูกใจสังคม จี้เจ้าอาวาสเร่งตักเตือน ขณะที่เจ้าอาวาส แอ่นอกรับลูกศิษย์ทำผิดจริงคราวหลังจะระวังมากขึ้น หลังเกิดกระแสกระหึ่มโซเซียล พระจัดทริปพระล่องเรือทะเลตรังสุดชิว 2 วัน 1 คืน
จากกรณีที่ โซเซียลวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหลังจาก! “หลวงพี่โจ” พระมหาดาวติ๊กต็อก มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่พรุ ต.น้ำผุด อ.เมืองตรัง วัดชื่อดังเมืองตรัง พร้อมเจ้าอาวาสพร้อมพระอีกหลายรูป และโยมแม่พร้อมฆราวาส หลังเกิดกระแสกระหึ่มโซเซียล พระจัดทริปสุดชิว! ล่องเรือทะเลตรังสุดชิว 2 วัน 1 คืน นอนพักริมชายหาด ล่องเรือ ดำน้ำดูปะการัง เข้าลอดถ้ำมรกต ทำให้โซเซียลแห่เข้าถล่มคอมเม้นต์ มองไม่ใช่กิจของสงฆ์ และประพฤติตัวไม่เหมาะสม ตามที่เสนอข่าวไปก่อนนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ 30 เม.ย.64 นายเสน่ห์ สิงห์นุ้ย ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดตรัง เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ตนก็เห็นเรื่องนี้จากสื่อเหมือนกัน เรื่องของพระภิกษุสงฆ์เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนในเรื่องวินัย และความเหมาะสม จะมีพระผู้ปกครองอยู่ มีพระวินยาธิการ ในเรื่องของวินัยนั้นมีกระบวนการพิจารณาของวินัยอยู่ว่าเหมาะสมหรือไม่ บางครั้งความคาดหวังของพุทธศาสนิกชนอาจจะมีต่อพระค่อนข้างเยอะ แต่ในความเป็นวิถีของพระต้องมีการผ่อนบ้างบางเรื่อง แต่เนื่องจากสื่อที่ออกมาอาจจะทำให้ภาพบางภาพดูเหมาะสมบ้างหรือไม่เหมาะสมบ้าง คนที่จะบริโภคสื่อก็ต้องใช้ดุลยพินิจพอสมควร ส่วนนี้ก็จะนำเรียนหลวงพ่อให้พิจารณาเรื่องความเหมาะสมจะได้ให้ความรู้ให้ข้อแนะนำในวัด ในเขตปกครองให้มากขึ้นเพื่อนำความศรัทธา มั่นคงของพระพุทธศาสนาสืบไป
ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดตรัง กล่าวอีกว่า การโพสต์สิ่งต่างๆ ลงบนโซเชียลของพระนั้นจะมองได้ 2 ลักษณะ หากมองด้านสิทธินั้นก็ต้องดูที่ข้อกฎหมายบ้านเมืองตามระเบียบ ในวินัยก็มีต้องมองไปเป็นประเด็นไปไม่สามารถเหมารวมได้ การลงสื่อหากมองตามกฎหมายบ้านเมืองหากไม่สร้างความเดือดร้อนไม่หมิ่นประมาทใครอยู่ในวิสัยที่ข้อกฎหมายไม่ได้บังคับ และในส่วนวินัยจะทำให้เกิดความเสื่อมเสียหรือไม่อย่างไรนั้นก็จะมีพระสงฆ์ที่ต้องทบทวนวินัยกันอยู่ สิ่งเหล่านี้อาจจะทำให้ไม่ถูกใจคนดูบ้างก็ต้องให้ความรู้และข้อแนะนำ ตักเตือนกันเพราะทุกๆ 15 ค่ำก็จะมีการทบทวนอยู่อะไรที่เป็นโลกาวัชชะก็จะได้สำรวมมากขึ้น เป็นสิ่งที่ต้องช่วยเหลือเกื้อกุลกันธำรงพระพุทธศาสนา ทั้งฝ่ายภิกษุ บรรพชิตและฝ่ายคฤหัสถ์ ต้องร่วมด้วยช่วยกัน เพื่อให้พระพุทธศาสนาได้ดำรงอยู่ได้สถาพรตลอดไป
ขณะที่ พระครูเมธากร รัครูสมุจำเลือง ฐิตเมโธ เจ้าอาวาสวัดไร่พรุ กล่าวชี้แจงว่า กรณีที่เกิดขึ้นกับพระในวัดก็เพิ่งทราบเรื่องตอนเช้าก็ได้สออบถามกับพระแล้วทราบว่าพระรูปดังกล่าวได้นำภาพลงแอพติ๊กต๊อก (TIKTOK) ก่อนหน้านี้ก็เคยเตือนแล้วในเรื่องเหล่านี้ด้วยความหวังดี แต่ครั้งนี้อาจจะเกิดเพราะอาตมาประมาทเองจะโทษลูกศิษย์ไม่ได้ เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะอาตมาหวังดีหลังจากเสร็จงานแล้วก็พาไป ซึ่งจัดขึ้นทุกปีแต่ครั้งนี้นำไปลงสื่อ ซึ่งเป็นสิ่งที่ให้สิ่งที่ดีและไม่ดีกระแสครั้งนี้ถือว่าเป็นด้านลบ เราก็ต้องระวังไว้ครั้งหน้า
พระครูเมธากร กล่าวด้วยว่า ความจริงแล้วเป็นเรื่องปกติของชาวโลกพระก็เป็นบุคคลที่ยังมีกิเลสแต่เราก็ระวัง ก็พาโยมแม่ไปด้วยไปกันหลายๆ คน เพื่อป้องกันข้อครหา แต่ครั้งนี้ถือว่าเป็นบทเรียนและเป็นส่วนที่อาตมาต้องเฝ้าระวังเพิ่มมากขึ้นด้วย ปกติการเที่ยวพระก็เที่ยวอยู่แล้วเมื่อต้องออกไปบิณฑบาตรตอนเช้า การไปเที่ยวครั้งนี้ก็คิดว่าเหมาะสมหากไม่ออกสื่อ เมื่อออกสื่อไปแล้ว โดยเฉพาะการแต่งเนื้อแต่งตัว หรือคำพูด ชาวบ้านก็จะมองถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควร การเล่นน้ำก็มีความผิดเป็นอาบัติ คราวหน้าคราวหลังก็ต้องระวังและอย่าทำอีก ช่วงนี้พระเรามีข่าวแง่ลบเยอะ แง่ดีก็ไม่เห็นและไม่ได้ออกสื่อ ไม่เป็นที่น่าสนใจมากนัก เรื่องนี้ก็จะฝากผ่านสื่อในฐานะที่เป็นเจ้าอาวาส อาตมานำพาลูกศิษย์ไปนำมาโพสต์ลงสื่อแล้วไม่ทันระวัง ต้องขอโทษที่ทำให้ทุกคนไม่สบายใจส่วนเรื่องอื่นก็จะไปคุยกันกับพระสงฆ์ต่อไป.
