หญิงวัย 58 ปี น้ำตาอาบแก้มบุกเข้าร้อง “บิ๊กโจ๊ก” ผู้ช่วย ผบ.ตร. ขณะลงปฏิบัติหน้าที่ จ.ตรัง หลังถูกสามี มีตำแหน่งเป็น อดีตผู้ใหญ่บ้านตามฆ่าและข่มขู่ รวมทั้งแฉภาพโป๊ขณะมีเพศสัมพันธ์ หลังภรรยาตีตัวออกห่าง ทนไม่ได้กับพฤติกรรมชู้สาว และทำร้ายร่างกายมาราธอนนานนับ 10 ปี ก่อนจะถูกสามีแจ้งความลักทรัพย์ ที่ภรรยานำรถยนต์กระบะขับออกมาด้วย ทำให้ต้องหลบซ่อนตัว เตลิดย้ายที่อยู่อาศัยกว่า 4 เดือน ไร้เงิน-ไร้งาน หวาดกลัวผวาถูกตามฆ่า เชื่อสามีหัวรุนแรงพูดจริง ทำจริง
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 30 พ.ค.65 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือบิ๊กโจ๊ก ผู้ช่วย ผบ.ตร.ขณะลงมาปฏิบัติงานในพื้นที่ จ.ตรัง เป็นระยะเวลา 2 วัน เพื่อติดตามผลการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และงานสืบสวน สอบสวนตามนโยบาย ตร. และการติดตามจับกุมผู้กระทําความผิดในคดีอาชญากรรมสําคัญในพื้นที่ ภ.9 ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยจึงให้ดําเนินการประชุมเร่งรัดการสืบสวนสอบสวนคดีอาชญากรรมสําคัญในพื้นที่ ภ.9 และรายงานผลการแก้ไขปัญหาการทําประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU) ในพื้นที่ จ.ตรัง ที่ประชุม สภ.กันตัง
ต่อมา นางรัษฎา ลิ้นหลง หรือป้าฉิม อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25/3 ม.4 ต.บ้านควน อ.เมืองตรัง ได้เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ โดยเนื้อความในหนังสือมีใจความว่า สามีคือ นายนิยม ลิ้นหลง (ขอสงวนนามสกุล) อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่หนึ่งในพื้นที่ ต.บ้านควน ซึ่งจดทะเบียนสมรสตามกฏหมายไปมีผู้หญิงอื่นจนเกิดคับแค้นใจและทะเลาะกันทุกวัน ก่อนที่จะตัดสินใจขับรถยนต์กระบะที่ติดชื่อสามีแต่ตนเป็นคนผ่อนชำระค่างวดหนีออกจากบ้าน ตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ.65 ที่ผ่านมา และไม่เข้ากลับบ้านอีกเลยจนสามีเข้าแจ้งความดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์ในเคหะสถานกับตน และถูกตามขู่ฆ่า และสามีได้ส่งเพื่อนซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดียิงภรรยาเสียชีวิตก่อนหน้านี้และได้ประกันตัวออกมาตามมาคุกคามตนถึงบ้านเช่า ตกกลางคืนสามีจะมาซุ่มหน้าประตูบ้านเช่า ทำให้ตนหวาดกลัวจนไม่กล้าออกจากบ้าน ซึ่งตนได้นำหลักฐานกล้องวงจรปิดไปแจ้งความบันทึกประจำวันไว้แล้วที่ สภ.เมืองตรัง แต่ทางตำรวจไม่สามารถช่วยเหลือได้ จึงมาขอความเมตตาช่วยเหลือในครั้งนี้ ทั้งยังได้นำเอกสารหลักฐานต่างๆ พร้อมด้วยคลิปกล้องวงจรปิดที่ถูกคุกคาม รวมทั้งเสียงบันทึกการสนทนาที่ถูกข่มขู่มาให้ไว้เป็นหลักฐานด้วย ก่อนที่ทาง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ จะรับเรื่องและรับปากจะสั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาและเจ้าหน้าที่ตำรวจใน จ.ตรัง เร่งดำเนินการให้ความเป็นธรรมทันทีและดูและความปลอดภัยของผู้ร้อง
นางรัษฎา กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนอยู่กินกับสามีจนทะเบียนสมรสมากว่า 10 ปี หลังจากที่สามีและตนต่างหย่าร้างกับคนเก่าทั้งคู่ โดยยึดอาชีพทำธุรกิจทำอิฐและขนส่งอาหารทะเลกับสามี ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาถูกสามีซึ่งเป็นคนหัวรุนแรงชอบยิงอาวุธปืนอยู่บ่อยครั้ง และทำร้ายตนด้วยการทุบตี โดนซ้อมกว่า 10 ปี ครั้งที่หนักสุดเคยทำให้ตนกระแทกกับรถบรรทุก 6 ล้อจนได้รับบาดเจ็บสาหัสฟันหัก ที่ผ่านมาสามีได้แอบไปมีสัมพันธ์กับภรรยาเก่าเป็นประจำ และแอบส่งเงินให้จ่ายจนทำให้ตนมีปัญหากันมาตลอด ก่อนที่จะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตนจึงตัดสินใจหนีออกมาจากบ้าน ไปเช่าบ้านอยู่ โดยขับรถกระบะวีโก้ ซึ่งติดชื่อสามีเป็นคนครอบครอง แต่ถือว่าเป็นสินนสมรส เนื่องจากตนเป็นคนผ่อนค่างวดจนหมดแล้วและใช้ทำงาน ก่อนจะถูกสามีไปแจ้งความว่าตนลักทรัพย์ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างคดี ต่อมาสามีพยายามตามหาตน จนกระทั่งมารู้ที่อยู่ และได้ตามราวีมาข่มขู่และประกาศจะฆ่าให้ตาย รวมทั้งได้ให้นายภา (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกัน และเป็นผู้ต้องหา คดีฆ่าภรรยาเสียชีวิตมาคุกคามตนถึงหน้าบ้านเช่า รวมทั้งมีการถ่ายรูปหน้าบ้านด้วย ตนได้แจ้งความบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้วเช่นกัน
นางรัษฎา กล่าวอีกว่า ทุกวันนี้สามียังโทรมาตามข่มขู่ฆ่า จะยิงให้ตาย อยู่ต่อเนื่องในห้วง 4 เดือนหลังจากที่ตนหนีออกมา พร้อมจะขอรถคืน แต่ตนไม่ให้คืน พร้อมตนยืนยันว่าถือเป็นสินสมรส ทำให้ตนต้องย้ายบ้านเช่า รวมทั้งขอความช่วยเหลือจากเพื่อนสนิทมาตลอด จนไม่กล้าออกไปไหนมาไหน ต้องหลบๆซ่อนๆ เนื่องจากกลัวความตาย จนไม่มีงานทำและมีเงินแม้แต่บาทเดียว และสามียังได้นำคลิปรวมทั้งภาพอวัยวะเพศของตนที่ถ่ายเอาไว้ รวมทั้งในขณะมีเพศสัมพันธุ์กันไปให้เพื่อนและคนที่รู้จักดู แต่ไม่แน่ใจว่ามีการส่งต่อด้วยหรือไม่ วันนี้มีความมั่นใจมากว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ว่าจะช่วยเหลือได้ใน 2 เรื่องคือ เรื่องรถยนต์ และเรื่องถูกตามฆ่าเพราะตนร็สึกผวาหนีจนไม่มีทางไปแล้ว ไม่ได้ทำมาหากิน นอนไม่หลับ ต้องหลบๆ ซ่อนๆ หนีเอาชีวิตรอดไปวันๆ กราบขอร้องให้ช่วยเหลือเพื่อหาทางออก ข่าวคืบหน้าจะรายงานต่อไป.