จัดเต็มคาราเบล! ตร.เมืองตรัง สนธิกำลังฝ่ายปกครอง เปิดยุทธการ “ปิดเมืองล่าเด็กแว้นป่วนเมือง” ยึดรถแต่งซิ่ง-ท่อดัง 22 คัน พร้อมผู้ต้องหาเป็นเด็กและเยาวชนอายุ 13-17 ปี ซึ่งเป็นผู้ขับขี่ ภายหลังจากชาวบ้านร้องเรียนสร้างความเดือดร้อนรำคาญจากเสียงท่อแทบทุกคืน เตือนผู้ปกครองหากเด็กกระทำความผิดซ้ำ ผู้ปกครองเตรียมถูกดำเนินคดีตามกฏหมายด้วย
เมื่อเวลา 00.30 น. ช่วงกลางดึกคืนวันที่ 6 ก.พ.66 พ.ต.อ.ภูมิสิทธิ์ นาวัง รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.สานิตย์ พลเพชร ผกก.สภ.เมืองตรัง นายสมพร อ่อนชาติ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง อ.เมืองตรัง นายธวัชชัย กรเพชร ปลัดอำเภอฯ บูรณาการสนธิกำลังทั้งในและนอกเครื่องแบบ ร่วม 50 นาย เปิดยุทธการ “ปิดเมืองล่า ปราบเด็กแว้นป่วนเมือง” ภายหลังจากการได้รับเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์จากพี่น้องประชาชน ที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของ สภ.เมืองตรัง ว่าช่วงก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันได้มีกลุ่มเด็กเยาวชนและวัยรุ่นมักจะขับขี่รถ จยย.แต่งซิ่ง ออกมาขับขี่กันเป็นกลุ่ม และมีการเบิ้ลเครื่องยนต์ และใช้ความเร็วในการขับขี่อย่างหวาดเสียว จนทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากเสียงของท่อรถ และหวั่นจะเกิดอุบัติเหตุให้กับผู้ที่ขับสัญจรไปมาอีกด้วย
พ.ต.อ.ภูมิสิทธิ์ นาวัง รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง กล่าวว่า วันนี้เป็นการเปิดปฎิบัติการร่วมกันเพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินพี่น้องประชาชนชาวเมืองตรัง และผู้ที่เดินทางในเส้นทางหลัก ซึ่งมีเด็กเยาวชน และวัยรุ่นขับขี่รถ จยย. ก่อความเดือดร้อนรำคาญ ก็ได้มีการดำเนินการตามมาตรการป้องกันตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา ซึ่งได้เข้มงวดกวดขัน และเพื่อช่วยกันดูแลบุตรหลาน โดยเฉพาะเยาวชน โดยที่ผ่านมาได้รับทราบความเดือดร้อนจากพี่น้องประชาชนว่ามีการขับขี่รถท่อดังป่วนเมือง เมื่อรับทราบแล้วก็ได้ดำเนินการตามมาตรการทันที ซึ่งไม่ได้มีการปล่อยปละละเลย และจะดำเนินการเช่นนี้ไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เสียงที่ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนเงียบลง หรือไม่ให้มีเกิดขึ้นเลย เพื่อพี่น้องประชาชนจะได้อยู่กันอย่างสงบสุข วันนี้ได้ดำเนินการทั้งเรื่องป้องปราม และดำเนินคดีด้วยเช่นกัน
พ.ต.อ.ภูมิสิทธิ์ กล่าวต่อไปว่า ซึ่งขณะนี้กล้องวงจรปิดภายในเขต สภ.เมืองตรัง มีการติดตั้งครอบคลุมเกือบทั่วทุกจุด ซึ่งได้รับการสนับสนุนมาจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วยเช่นกัน โดยมี สภ.เมืองตรังเป็นเซ็นเตอร์ในการตรวจสอบและสอดส่อง ตามนโยบายของพล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และท่านรอง ผบ.ตร. จึงอยากฝากไปยังผู้ปกครองให้ช่วยกันดูแล กวดขัน และอบรมลูกหลาน ให้เข้าใจว่าการกระทำเช่นนี้ เป็นการสร้างความเดือดร้อนรำคาญ และจะก่อให้เกิดอันตรายทั้งต่อตนเองและต่อผู้อื่นด้วย ที่ทางตำรวจปฎิบัติการเช่นนี้เพราะด้วยความเป็นห่วง
เบื้องต้นได้มีการดำเนินการตามกฎหมายกับเด็กและเยาวชนทั้งหมด พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหา 1.ดัดแปลงสภาพรถ 2.ก่อความเดือดร้อนรำคาญให้กับผู้อื่น พร้อมทั้งจะมีการทำทัณฑ์บน และจะเรียกผู้ปกครองมารับทราบเรื่อง ซึ่งหากเด็กและเยาชนกลุ่มนี้กระทำความผิดเช่นนี้ซ้ำหลังจากนี้ทางตำรวจก็จะมีการดำเนินคดีตามกฏหมายกับผู้ปกครองอีกด้วยเช่นกันในฐานปล่อยปละละเลย.